“บีม ศรัญญู” เผย ไม่ได้เจตนาไปมีเรื่องกับช่างภาพปาปารัชซี่ หลังถูกตามถ่ายภาพเพราะควงสาวอื่นที่ไม่ใช่ “ชาช่า” ยัน วันนั้นคนที่ไปด้วยคือแฟนสาวแน่นอน ซึ่งพอเห็นเลยเดินเข้าไปทักเท่านั้น อ้างช่างภาพคงตกใจจึงรีบวิ่งหนี แขวะ คงร้อนตัวเพราะทำบาปกรรมเอาไว้ ลั่นขอโทษหากทำให้เข้าใจผิด
มีข่าวฉาวให้ตามแก้กันอีกแล้วสำหรับดาราหนุ่มมาดแบดบอย “บีม ศรัณยู ประชากริช” ที่ล่าสุดมีข่าวว่าเจ้าตัวเกิดบันดาลโทสะไม่พอใจที่ช่างภาพปาปารัชซี่ของสื่อดังฉบับหนึ่ง ตามถ่ายภาพตนในขณะที่ควงสาวอื่นไปเดินเที่ยวห้างสรรพสินค้า ซึ่งระบุว่าสาวคนนั้นไม่ใช่แฟนสาว “ชาช่า ยามาดะ” จนหวิดมีเรื่องกันกลางห้างดัง ทั้งนี้เจ้าตัวได้ยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาหาเดินเข้าไปหาเรื่องช่างภาพคนดังกล่าว เพียงแต่จะเดินเข้าไปทักเท่านั้น แต่ช่างภาพกลับร้อนตัวตกใจวิ่งหนีไปเอง
ส่วนเรื่องความรักนั้นหลังจากที่ได้เลิกรากับแฟนสาวไปเมื่อช่วงวาเลนไลน์ที่ผ่านมานั้น ตอนนี้ได้คืนดีกันเรียบร้อยแล้ว และต่างคนต่างให้อิสระความเป็นส่วนตัวกันมากขึ้น
“สำหรับข่าวว่าผมไปมีเรื่องกับช่างภาพปาปารัชซี่ในห้างเพราะเขามาตามถ่ายผมกับผู้หญิงคนอื่นที่ไม่ใช่ชาช่า เรื่องนี้ไม่ใช่เลยครับวันนั้นผมก็ไปกินข้าวกับชาช่า ไม่ใช่ให้เตะเลย ผมก็มองว่าเขาทำอะไรก็เลยเห็นว่าเขากำลังถ่ายมันเลยครับ ผมเห็นก็แค่เดินไปดูเฉยๆ แต่เขาคงร้อนตัวเลยวิ่งหนีลงบันไดเลื่อนไปเลย ผมก็งงวิ่งทำไมมันไม่มีอะไรเลยครับไม่ได้ทะเลาะกับช่างภาพอะไรเลย ผมก็เออนี่แหละนะคนมันทำบาปแต่ผมก็เข้าใจครับว่ามันเป็นงาน แล้วผมก็ไม่ได้ทำอะไรเขาเลย ก็เป็นแค่การไปเที่ยวห้างกันธรรมดา”
“ผมก็ไม่ได้โกรธอะไรครับผมโดนแบบนี้เยอะแล้ว และผมก็ไม่ได้ทำอะไรน่าเกลียดด้วยครับ ซึ่งตัวชาช่าก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะเขาก็เข้าใจว่าเป็นคนสาธารณะแต่ว่าผมว่ามันตลกมากกว่า ผมก็ไม่ได้คิดที่จะไปทำอะไรเขาด้วย ก็ต้องขอโทษที่ทำให้เข้าใจผิดครับ”
ยอมรับ ตอนแรกได้เลิกรากับ “ชาช่า ทามาดะ” แฟนสาวไปแล้ว แต่สุดท้ายก็หวนคืนดี เพราะปรับความเข้าใจกัน เผย หลังคืนดีต่างให้ความเป็นส่วนตัวกันมากขึ้น
“ข่าวที่ออกไปว่าเลิกกันก็เพราะว่าเราทะเลาะกันครับ อาจจะด้วยตัวผมด้วยว่าเมื่อก่อนอาจจะยังไม่อยากที่จะจริงจังกับใคร อาจจะมีหวิวๆ เหวอๆ บ้าง แต่ตอนนี้ก็เหมือนกับเป็นทั้งแฟนทั้งเพื่อนด้วย เป็นหลายๆ อย่างให้กันทั้งเรื่องจิตใจของการทำงานประมาณนี้ครับผมก็โอเค แต่ก็ยังไม่ออกตัวว่าอนาคตจะเป็นยังไง แต่ก็จะทำให้ดีที่สุดครับ เพื่อเราทั้งสองคนครับไม่ใช่แค่ผมคนเดียว ”
“ซึ่งตอนนี้กลับมาคุยกันเราก็จูนกันมากขึ้น และก็มีช่องว่างชีวิตส่วนตัวกันมากขึ้น อย่างตัวผมไม่ค่อยชอบที่จะให้ใครมาก้าวก่ายชีวิตผม ตอนนี้เขาเลยไม่ค่อยมายุ่งอะไรเท่าไหร่แล้วครับ เขาก็เข้าใจมากขึ้นและผมก็ต้องทำแบบนั้นกับเขาเหมือนกันเพราะว่าถ้าเรามีความสุขกับตัวเองและเราก็มาจอยความสุขกัน ทั้งสองคนก็จะมีความสุขอย่าเข้าไปในโลกส่วนตัวของเขาตอนนี้ทำอะไรก็ต้องใช้สติและสมาธิให้มากขึ้นและทำให้มันออกมาให้ดีที่สุดครับ”
ที่มา: manager.co.th