Author Topic: เจาะกลยุทธ์ร้อนรับเปิดเทอม ค่ายยักษ์ไอที  (Read 981 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Reporter

  • Moderator
  • Gold Member
  • *
  • Posts: 1093
  • Karma: +8/-0
  • Gender: Male
    • ซ่อมคอมเชียงใหม่

ทั้งเอชพี อัสซุส และซินเน็ค มองการแข่งขันด้านราคายังมาแรง เตรียมชูโปรฯ งัดการตลาดสู้คู่แข่ง ประกาศขอทำยอดขายให้คงเดิม ไม่กล้าฝันถึงกำไร เชื่อผู้บริโภคยังต้องการใช้งานต่อเนื่อง มั่นใจตลาดไอทีในไทยยังมีช่องให้เติบโต…



สภาพการจราจรภายใน กทม. กำลังจะกลับคืนสู่สภาพเดิมอีกครั้ง เนื่องจากสถานศึกษาหลายแห่งกำลังทยอยเปิดภาคเรียน ถือเป็นการเริ่มต้นกิจกรรมและบรรยากาศต่างๆ ให้กลับมาคึกคักขึ้นอีกครั้งหนึ่ง หลังจากเงียบเหงาไปนานในช่วงปิดภาคเรียน เช่นเดียวกับ ตลาดไอที ที่หลายฝ่ายกำลังจับตามองว่า ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจที่ยังถดถอยและสถานการณ์ทางการเมืองที่ยังไม่แน่นอน จะส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจและวงการดังกล่าวมากน้อยเพียงไร…

นายปวิณ วรพฤกษ์ ผู้จัดการทั่วไปกลุ่มผลิตภัณฑ์และการตลาด กลุ่มธุรกิจเพอซัลนัลซิสเต็มส์ (พีเอสจี) บริษัทฮิวเลตต์-แพคการ์ด (ประเทศไทย) จำกัด หรือ เอชพี เปิดเผยถึงกลยุทธ์และนโยบายของบริษัทฯ เพื่อต้อนรับช่วงเปิดเทอมว่า เนื่องจาก เอชพีเปิดตัวสินค้าไปค่อนข้างเยอะ ทั้งโน้ตบุ๊ค พาวิลเลียน ดีวี 2 และโน้ตบุ๊ค 12 นิ้วรุ่นล่าสุด จึงมั่นใจได้ว่าสินค้าและโปรโมชันของเอชพีจะสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคกลุ่มต่างๆ ได้อย่างครอบคลุม ขณะนี้ บริษัทฯ ก็มีแผนทำโปรโมชันทั่วประเทศ เพื่อกระตุ้นการขายและเข้าถึงผู้บริโภคมากขึ้น ส่วนกลยุทธ์ทางการขายเพื่อต้อนรับการเปิดภาคเรียนของนักเรียนและนักศึกษา บริษัทฯ ได้จัดโครงการ Back to School เพื่อมอบโปรโมชันส่งเสริมการขายให้แก่ลูกค้า โดยสินค้าที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากผู้ซื้อ ได้แก่ โน้ตบุ๊คขนาด 14 นิ้ว และ 12 นิ้ว ที่มีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 15,000-25,000 บาท

ผจก.ทั่วไปกลุ่มผลิตภัณฑ์และการตลาด กลุ่มพีเอสจี ของเอชพี ให้รายละเอียดต่อว่า ส่วนนักเรียนในระดับประถมและมัธยม เอชพีก็มีโปรโมชันและสินค้าออกมารองรับตั้งแต่ช่วงปลายปี 2551 ที่ผ่านมา มีเครื่องคอมพิวเตอร์ในกลุ่มเพรสซาริโอ สำหรับลูกค้ากลุ่มดังกล่าว ด้วยราคาเพียง 9,900 บาท ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังจัดกิจกรรมร่วมกับแอนดูรว์ บิ๊กส์ เพื่อสอนภาษาอังกฤษและทักษะการใช้คอมพิวเตอร์แก่เด็กๆ ในภาคเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ โดยมีผลการตอบรับด้านการเรียนรู้เทคโนโลยีไอทีค่อนข้างดี เนื่องจาก เอชพีต้องการเปิดตลาดใหม่ในกลุ่มนักเรียนระดับดังกล่าว ที่มีอัตราการเติบโตค่อนข้างสูง

นายปวิณ ให้รายละเอียดอีกว่า นอกจากกลุ่มนักเรียนและนักศึกษา เอชพียังมีลูกค้าในกลุ่ม Young Family และกลุ่มคนวัยทำงาน รวมถึง กลุ่มผู้หญิง เป็นลูกค้าหลัก จากปัจจัยด้านความเร็วอินเทอร์เน็ต โปรโมชันทางการตลาด รวมถึง เทคโนโลยีและการออกแบบที่ทันสมัยของอุปกรณ์ ทำให้อุปกรณ์ต่างๆ มีประสิทธิภาพและความรวดเร็ว สามารถตอบสนองการใช้งานได้มากกว่าในอดีต แม้ว่า ผลประกอบการในไตรมาสที่ 1 ของปี 2552 นี้จะมีภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดี แต่ต้องยอมรับว่ามีบางเซกเมนต์ที่ได้รับผลกระทบ ขณะเดียวกัน ก็มีบางกลุ่มมีอัตราการเติบโตมากขึ้น คาดว่า ในไตรมาสที่ 2 และ 3 ตลาดไอทีจะมีการแข่งขันในด้านราคาค่อนข้างสูง ส่วนภาพรวมของตลาดไอทีภายในประเทศไทย ก็ยังคงมีโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่อง

“บรรดาผู้ประกอบการต้องทำงานหนักขึ้น นอกจากการพิจารณาถึงความครอบคุลมของสินค้า ยังรวมถึงการดำเนินงานและบุคลากรภายในองค์กร ที่เอชพีมีจุดแข็ง จากการแบ่งสายการดำเนินงานด้านการขายอย่างชัดเจน ส่งผลให้บริษัทฯ สามารถดำเนินงานได้อย่างรวดเร็วและมีความชัดเจนยิ่งขึ้น สินค้าของเอชพีไม่ได้เน้นที่ราคาเป็นหลัก แต่เน้นคุณภาพและการออกแบบควบคู่กันไป แม้จะไม่มีสินค้าให้เลือกหลากหลายเหมือนกับแบรนด์อื่น แต่เรามีฟีเจอร์จำนวนมากเพื่อรองรับความต้องการใช้งาน” ผจก.ทั่วไปกลุ่มผลิตภัณฑ์และการตลาด กลุ่มพีเอสจี เอชพี กล่าว

ด้าน นายพรเทพ วัชรอำนวย กรรมการผู้จัดการ บริษัท อัสซุสเทค คอมพิวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด อธิบายถึงแคมเปญ Back to School ของบริษัทฯ ว่า แคมเปญดังกล่าวมีขึ้นตั้งแต่ช่วงต้นเดือน พ.ค. และจะมีถึงช่วงสิ้นเดือนนี้ ด้วยโปรโมชันด้านราคา ให้นักเรียน นักศึกษา และผู้ปกครองที่ต้องการซื้ออุปกรณ์คอมพิวเตอร์ให้บุตรหลานของตน สามารถซื้อสินค้าของอัสซุสได้ในราคาพิเศษ ส่วนผลประกอบการไตรมาสที่ 1 ในปี 2552 ของบริษัทฯ ยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ทรงตัว เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 4 ของปี 2551 เชื่อว่า ในไตรมาสที่ 2 หลังจากบริษัทฯ มีการจัดโครงสร้างและกำหนดสายผลิตภัณฑ์ใหม่ โดยเน้นที่รุ่นของผลิตภัณฑ์ในการแข่งขัน เพื่อปรับกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจและกระตุ้นยอดขาย รวมถึง การปรับปรุงและขยายช่องทางในการจัดจำหน่าย ในไตรมาสที่ 3 จะสามารถเพิ่มยอดขายและรายได้ให้แก่บริษัทฯ ได้



กรรมการผู้จัดการ บ.อัสซุสเทคฯ ให้ข้อมูลต่อว่า ภาพรวมของตลาดไอทีในประเทศไทยนั้น คาดว่าจะมีการแข่งขันด้านราคา และการผ่อนชำระในระยะยาว รวมถึง การผ่อน 0% ที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยธุรกิจที่มีรูปแบบการผ่อนชำระแบบดังกล่าว สามารถกระตุ้นให้ผู้บริโภคเกิดการตัดสินใจซื้อและกล้าใช้จ่ายในด้านไอทีมากขึ้น เนื่องจาก ความต้องการใช้งานสินค้าไอทียังคงมีอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับ อัตราการเติบโตของตลาดไอทีในประเทศไทยที่ยังคงขยายตัว ส่วนสินค้าของอัสซุสที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคสูงสุด ได้แก่ สินค้าประเภทโน้ตบุ๊คและเมนบอร์ด จากกลุ่มผู้บริโภคที่เรียกว่า Power User ที่เป็นกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายของอัสซุส โดยผู้บริโภคกลุ่มดังกล่าวจะมีความรู้และเข้าใจในเทคโนโลยีพอสมควร

ส่วน นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะตัวแทนจำหน่ายคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ไอที ชี้แจงว่า ในไตรมาสที่ 1 ของปี 2552 ซินเน็คเติบโตขึ้น 5% และมีกำไรลดลงประมาณ 10% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 4 ของปี 2551 จากผลประกอบการดังกล่าว เชื่อว่า ในปีนี้บริษัทฯ จะมีกำไรไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท หลังจากที่เคยคาดการณ์ถึงกำไรของบริษัทฯ ในปีนี้ ว่า อาจลดลงมากกว่า 20% เนื่องจาก สถานการณ์ทางการเมืองและเศรษฐกิจที่ยังอยู่ในช่วงชะลอตัว ขณะที่ ภาพรวมของตลาดไอทีในปัจจุบันปรับลดลงไป 3% แต่ในไตรมาสที่ 3 ของปี หากสถานการณ์ทางการเมืองมีความแน่นอน อาจส่งผลให้ตลาดไอทีกลับมาคึกคักได้อีกครั้ง

ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ซินเน็ค แสดงทัศนคติต่อว่า ช่วงเปิดภาคเรียนของนักเรียนนักศึกษานั้น ไม่ได้ส่งให้ตลาดไอทีมีอัตราการเติบโตหรือขยายตัวมากขึ้น ตนมองว่า ช่วงก่อนการปิดงบประมาณประจำปีของหน่วยงานราชการ ประมาณเดือนตุลาคมนั้น มีผลกระทบต่อการเติบโตของธุรกิจไอทีมากกว่า เนื่องจาก ผู้บริโภคทั่วไปจะไม่กล้าใช้จ่ายและประหยัดการใช้จ่าย ในส่วนของซินเน็ค หากในปีนี้ มีผลประกอบการมากกว่า 5% ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจแล้ว

การประเมินสถานการณ์ของบรรดาผู้ประกอบการ เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ภายใต้แนวโน้มแห่งความหวัง ที่ต้องการเห็นภาพรวมของตลาดไอทีกลับมาคึกคักอีกครั้งเหมือนเก่า ก่อนเกิดปัญหาเศรษฐกิจและภาวะวิกฤตทางการเมือง

แม้ต้องงัดกลยุทธ์ หั่นราคา ขยายโปรโมชัน เพื่อชิงยอดขายและรายได้มากเพียงใด เชื่อว่า ผู้ผลิตไปจนถึงผู้ขายรายเล็กรายย่อย ต่างเต็มใจทำเพื่อความอยู่รอดทั้งสิ้น ขณะที่ ผู้ซื้อพยายามประยุกต์สินค้าที่ตนมี เพื่อให้จ่ายเงินน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ไม่รู้ว่าสงครามแห่งธุรกิจระหว่างคนขายและคนซื้อนี้ ในที่สุดแล้ว ใครจะเป็นผู้ที่กำชัยชนะ...


ปิยุบล ตั้งธนธานิช
itdigest@thairath.co.th

ที่มา: thairath.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)