The Social Network ผงาดคว้าลูกโลกทองคำ

[Nick]

The Social Network คว้า 4 ลูกโลกทองคำครั้งที่ 68

ภาพยนตร์ขวัญใจนักวิจารณ์ The Social Network ผงาดเป็นภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ของเวที ลูกโลกทองคำ (Golden Globe) ครั้งล่าสุด พร้อมกับกวาดรางวัลต่าง ๆ ไปอีก 3 สาขา รวมถึงรางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมของ “เดวิด ฟินเชอร์” ฝ่าย “นาตาลี พอร์ตแมน” จาก Black Swan และ “คอลลิน เฟิร์ธ” จาก The King’s Speech เป็นนักแสดงยอดเยี่ยมแห่งปี
       
       ประกาศผลกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วในช่วงค่ำคืนของวันที่ 16 ม.ค. ตามเวลาท้องถิ่น สำหรับรางวัลทางภาพยนตร์ที่สำคัญอีกหนึ่งรางวัลของฮอลลีวูด อย่าง ลูกโลกทองคำ หรือ Golden Globe ครั้งที่ 68 โดยสมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศในฮอลลีวูด ณ โรงแรมเบฟเวอร์ลีฮิลล์ ในแคลิฟอร์เนีย โดยปีนี้ดาวตลก ริกกี้ เจอร์เวส รับหน้าที่ดำเนินรายการเป็นปีที่ 2 ติดต่อกันแล้ว
       
       สำหรับรางวัลใหญ่อย่างสาขาภาพยนตร์อย่างภาพยนตร์ดรามายอดเยี่ยมนั้น ตกเป็นของตัวเต็งอย่าง The Social Network ไปตามคาด ขณะที่ผู้กำกับคนดัง เดวิด ฟินเชอร์ ก็คว้ารางวัลในสาขาผู้กำกับไปครอง The Social Network เล่าเรื่องการถือกำเนิดของเว็บไซต์เครือข่ายสังคมสุดฮิตแห่งยุค Facebook กับเรื่องความสำเร็จของคนหนุ่มที่โด่งดังแห่งยุค มาร์ค ซักเกอร์เบิร์ค แลกความโด่งดังและเงินทอง กับมิตรภาพของคนรอบตัว
       
       The Social Network ยังกวาดรางวัลไปอีก 2 สาขา ได้แก่ บทภาพยนตร์ยอดเยี่ยมโดยนักเขียนคนดัง แอรอน ซอกิน และ ดนตรี ประกอบยอดเยี่ยมของ เทรนต์ เรซเนอร์ และ อัตติคัส รอสส์
       
       นักแสดงสาวยอดฝีมือ นาตาลี พอร์ตแมน คว้ารางวัลนักแสดงนำหญิงจาก Black Swan มาสเตอร์พีซของเธอที่เล่าเรื่องระทึกขวัญจิตวิทยา โดยมีฉากหลังเป็นวงการบัลเลต์ นักแสดงวัย 29 ปี ที่กำลังตั้งท้องอ่อน ๆ กล่าวขอบคุณทุกคนในภาพยนตร์เรื่องนี้ รวมถึง เบนจามิน มีเพียด์ ว่าที่สามี และพ่อของลูก ที่ได้คบหากันหลังจากร่วมงานใน Black Swan ด้วย ขณะที่เต็งหาม คอลลิน เฟิร์ธ จาก The King's Speech ก็ไม่ได้พลาดในสาขาดารานำแสดงชาย
       
       โดย The King's Speech เล่าเรื่องของสมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 6 ที่ต้องกล่าวสุนทรพจน์นำอังกฤษเข้าสู่สงครามโลก และได้รับความช่วยเหลือจากนักบำบัดอาการผิดปกติทางการพูดชาวออสเตรเลีย เพื่อแก้ไขปัญหาการพูดติดอ่างของพระองค์
       
       สองคู่หูจาก Toy Story ขึ้นเวทีมาเพื่อประกาศรางวัลในสาขาภาพยนตร์ตลกหรือเพลง และกลายเป็น The Kids Are All Right ที่คว้ารางวัลใหญ่รางวัลนี้ไปครอง ขณะที่ พอล เจียมาติ (Barney's Version) และ แอนเน็ต เบนนิ่ง (The Kids Are All Right) ได้รับรางวัลสำหรับการแสดงนำในสาขานี้ไปครอง
       
       ในลูกโลกทองปี 2011 นับว่าเป็นปีของหนังที่สร้างมาจากเรื่องจริง นอกจาก The Social Network และ The King’s Speech ที่คว้ารางวัลใหญ่ไปครองแล้ว The Fighter ที่สร้างจากประวัติชีวิตนักมวยชื่อดัง ก็สามารถคว้ารางวัลไปได้ถึง 2 สาขาในด้านการแสดง
       
       คริสเตียน เบล ที่สวมบทบาทเป็นอดีตนักมวยและโค้ชมวย ดิกกี้ เอิ๊กลุน ที่ปั้นน้องชายตัวเองอย่าง มิกกี้ วอร์ด จนกลายเป็นนักมวยระดับโลก ก็ได้รับรางวัลนักแสดงสมทบชาย เช่นเดียวกับ เมลิซซ่า ลีโอ จากหนังเรื่องเดียวกัน ที่คว้ารางวัลนักแสดงสมทบหญิงไปครองอย่างพลิกความคาดหมาย
       
       ขณะที่ อัล ปาชิโน่ และ แคลร์ เดนส์ ซึ่งได้รับรางวัลในสาขานักแสดงชายในสาขามินิซีรี่ส์จาก You Don't Know Jack และ Temple Grandin ก็เป็นผลงานที่สร้างมาจากเรื่องจริงเช่นเดียวกัน
       
       Toy Story 3 ปิดตำนานการ์ตูนอนิเมชั่นขวัญใจประชาชนอย่างยิ่งใหญ่ ด้วยการคว้ารางวัลอนิเมชั่นยอดเยี่ยม และนับเป็นรางวัลลูกโลกทองคำตัวที่ 6 สำหรับ Pixar สตูดิโอผลิตอนิเมชั่นชื่อดังแห่งวงการภาพยนตร์แล้ว
       
       สำหรับผู้ผิดหวังประจำปีกลายเป็น Inception ของผู้กำกับ คริสโตเฟอร์ โนแลน ที่ได้เข้าชิงใน 3 รางวัลสำคัญ และได้รับการจับตามองในฐานตัวเต็งเรื่องหนึ่ง แต่สุดท้ายต้องกลับบ้านมือเปล่า
       
       สำหรับรางวัลสาขาโทรทัศน์ปีนี้ Glee กลายเป็นดาวเด่นแห่งปี ด้วยการคว้ารางวัลไปถึง 3 สาขา รวมถึงซีรีส์ตลกยอดเยี่ยม ขณะที่Boardwalk Empire คว้ารางวัลซีรีส์ประเภทดราม่ายอดเยี่ยมไปครอง รวมถึงในสาขาดารานำแสดงชายของ สตีฟ บุเชมี่
       
       สำหรับรางวัล เซซิล บี. เดอมิลล์ ที่ตั้งชื่อตามผู้กำกับผู้ยิ่งใหญ่ของฮอลลีวูด ซึ่งมอบให้กับผู้ประสบความสำเร็จในวงการภาพยนตร์ในปีล่าสุด ตกเป็นของยอดนักแสดงผู้ยิ่งใหญ่ โรเบิร์ต เดอ นีโร โดยที่ผ่านมา เดอ นีโร เคยคว้ารางวัลลูกโลกทองคำมาแล้ว 1 ครั้งในสาขานักแสดงนำชาย จากภาพยนตร์เรื่อง Raging Bull เมื่อปี 1980 และได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลอีกถึง 7 ครั้ง โดยนักแสดงหนุ่ม แม็ต เดม่อน มาเป็นผู้ประกาศชื่อของนักแสดงรุ่นพี่ที่เขากล่าวยกย่องให้เป็น "นักแสดงที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ที่ยังมีชีวิตอยู่"
       
       รางวัลสาขาภาพยนตร์
          - ผู้กำกับยอดเยี่ยม/เดวิด ฟินเชอร์ (The Social Network)   
       
          - ภาพยนตร์ดราม่ายอดเยี่ยม/The Social Network
       
          - นักแสดงชาย-หญิง ในประเภทดราม่ายอดเยี่ยม/คอลิน เฟิร์ธ (The King's Speech) - นาตาลี พอร์ตแมน (Black Swan)
       
          - ภาพยนตร์ตลกหรือเพลงยอดเยี่ยม/The Kids Are All Right
       
          - นักแสดงชาย-หญิง ในประเภทตลกหรือเพลงยอดเยี่ยม/พอล เจียมาติ (Barney's Version) - แอนเน็ต เบนนิ่ง (The Kids Are All Right)
       
          - นักแสดงสมทบชาย-หญิงยอดเยี่ยม/คริสเตียน เบล (The Fighter) - เมลิซซ่า ลีโอ (The Fighter)
       
          - ภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม/Hævnen
       
          - บทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม/แอรอน ซอร์กิน (The Social Network)
       
          - ดนตรีประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม/เทรนต์ เรซเนอร์, อัตติคัส รอสส์ (The Social Network)
       
          - เพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม/ไดแอน วอร์เรน จากเพลง You Haven't Seen The Last of Me (Burlesque)
       
          - อนิเมชั่นยอดเยี่ยม/Toy Story 3
       
       รางวัลสาขาโทรทัศน์
          - ซีรีส์ยอดเยี่ยมประเภทดราม่า/ Boardwalk Empire
       
          - นักแสดงนำชาย - หญิงยอดเยี่ยม ในซีรีส์ ประเภทดราม่า/สตีฟ บูเชมี่ (Boardwalk Empire) - เคธีย์ เซกัล (Sons of Anarchy)
       
          - ซีรีส์ตลกหรือเพลงยอดเยี่ยม/Glee
       
          - นักแสดงนำชาย - หญิงยอดเยี่ยม ในซีรีส์ตลกหรือเพลง/จิม พาร์สัน (The Big Bang Theory)- ลอร่า ลินนีย์ (The Big C)
       
          - มินิซีรี่ หรือหนังที่สร้างสำหรับฉายทางโทรทัศน์ยอดเยี่ยม/Carlos
       
          - นักแสดงนำชาย - หญิงยอดเยี่ยม ในมินิซีรีส์ หรือหนังที่สร้างสำหรับฉายทางโทรทัศน์/อัล ปาชิโน่ (You Don't Know Jack) - แคลร์ เดนส์ (Temple Grandin)
       
          - นักแสดงสมทบชาย - หญิง ยอดเยี่ยม ในซีรีส์, มินิซีรีส์, หรือหนังสำหรับภาพยนตร์ทางโทรทัศน์/ คริส คัลฟี (Glee) - เจน ลินช์ (Glee)

ที่มา: manager.co.th