Author Topic: “โอ วรุฒ” รับแยกทางกับเมีย ยัน “แอร์บัส” เป็นลูกไม่เคยคิดตรวจดีเอ็นเอ  (Read 1270 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


“โอ วรุฒ” แถลงมั่นใจ “แอร์บัส” เป็นลูก ยันไม่ได้เป็นหมัน เชื่อเป็นการสื่อสารผิดทำให้เกิดกระแสข่าวลือไปตรวจดีเอ็นเอแล้วไม่ใช่ลูกตน รับแยกทางกับภรรยาเมื่อก.ค.ที่ผ่านมา เหตุต่างคนต่างทำงานไม่มีสัมพันธ์ฉันท์สามี-ภรรยา ปัดฝ่ายหญิงมาเกาะเอาเงิน หรือตนมีสาวใหม่ รับจิตใจย่ำแย่ทำให้กลับมาดื่มแอลกอฮอล์อีก จนถูกทีวีธันเดอร์เบรกงาน
       
       หลังจากที่เกิดกระแสข่าวลือออกมามากมายว่า ตอนนี้นักแสดงรุ่นใหญ่ “โอ วรุฒ วรธรรม” กำลังประสบปัญหาครอบครัวอย่างหนัก ทั้งเรื่องที่ว่าภรรยาสาว “เก๋ เจษฎาวรรลย์ จันทร์แตง” มาเป็นชาวเกาะเอาแต่เงิน ทำให้นักแสดงรุ่นใหญ่เกิดความไม่พอใจ รวมไปถึงมีการตรวจดีเอ็นเอแล้วว่า “น้องแอร์บัส” หรือ “ด.ช.อาณาจักร วรธรรม” ไม่ใช่ลูกตน เพราะผลจากการตรวจร่างกายของ “โอ” นั้น ปรากฏออกมาว่าเป็นหมัน
       
       ซึ่งวันนี้ (1 ธ.ค.) เมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา “โอ วรุฒ” ได้ทำการแถลงข่าวเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวที่กองถ่ายละคร “พ่อปลาไหลป้ายแดง” ที่โรงแรมเรดิสัน พระราม 9 โดยยืนยันว่าเป็นการสื่อสารที่เข้าใจผิดกัน และไม่มีความตั้งใจที่จะตรวจดีเอ็นเอเลยแม้แต่น้อย เพราะมั่นใจว่า “น้องแอร์บัส” เป็นลูกของตน


       
       “ก่อนอื่นต้องบอกก่อนนะครับว่าเป็นการสื่อสารที่ผิด จากในทวิตเตอร์ที่เขามีข่าวลือว่า ลูกไม่ใช่ลูกของวรุฒ วรธรรม ก็มีทางสื่อมวลชนจากโมเดิร์นไนน์โทรมาสัมภาษณ์เมื่อวานตอนเย็นว่า พี่โอได้ไปตรวจดีเอ็นเอหรือไม่ ซึ่งผมก็บอกว่าไม่ได้ไปตรวจดีเอ็นเอ ซึ่งตอนที่สื่อสารตอนนั้นคลื่นโทรศัพท์ของทางโมเดิร์นไนน์ไม่ชัด เขาฟังว่าโอ วรุฒได้ไปตรวจดีเอ็นเอ ซึ่งจริงๆ แล้วไม่มีการตรวจดีเอ็นเอใดๆ ทั้งสิ้น แล้วก็ไม่มีการบอกว่าไปตรวจดีเอ็นเอด้วยซ้ำไป ซึ่งถ้าไปตรวจดีเอ็นเอจริงๆ น่าจะเป็นข่าวไปตั้งแต่วันที่ไปตรวจแล้วนะครับ เพราะการตรวจดีเอ็นเอมันไม่ใช่ว่าง่ายเหมือนการตรวจปัสสาวะ ต้องทำเรื่องกับกรมตำรวจแล้วก็ไปตรวจที่โรงพยาบาลตำรวจ ก็น่าจะเป็นข่าวไปตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว”
       
       “ซึ่งเราก็ไม่ได้ไปตรวจ เป็นการสื่อสารที่ผิดครับ เมื่อวานนี้ทางโมเดิร์นไนน์ก็มาสัมภาษณ์ผมที่กองถ่าย แล้วเขาก็บอกเองว่าเขาสัมภาษณ์ตรงบันไดหนีไฟ แล้วสัญญาณมันก็ไม่ชัด พอฟังเสร็จเขาก็ได้ยินเป็นว่ามีการไปตรวจดีเอ็นเอ เขาก็เลยเข้าไปในทวิตเตอร์ไปซ้ำอีกรอบนึงว่ามีการไปตรวจดีเอ็นเอ ก็ยืนยันครับว่าน้องแอร์บัสเป็นลูกผม ไม่มีการตรวจดีเอ็นเอ แล้วก็ไม่มีการชวนกันไปตรวจ ไม่มีครับ”
       
       “ทางโมเดิร์นไนน์ รายการไนน์เอนเตอร์เทนคนที่มาสัมภาษณ์ ก็บอกว่าเขาขอโทษที่ได้ยินผิดเอง เขาจะเข้าไปแก้ให้ ก็ไม่รู้ว่าเขาแก้หรือยัง แต่วันนี้ก็ไม่เห็นไนน์เอนเตอร์เทนมานะ แต่เขาบอกผมแล้วล่ะว่าวันนี้ไม่กล้ามา กลัวเพื่อนๆ ด่า(หัวเราะ) ส่วนเรื่องผลตรวจสุขภาพของผมว่าเป็นหมัน มีด้วยเหรอ ไม่เป็น เป็นหมันได้ไง ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันนะว่าทำไมมีข่าวแบบนี้ แล้วก็ไม่ทราบด้วยว่ามาจากแหล่งไหน ซึ่งน้องแอร์บัสก็ยังเป็นเด็กชายอาณาจักร วรธรรมนะครับ ก็ยังเป็นลูกของผมด้วย”
       
       แจงแยกกันอยู่กับภรรยาแล้ว เหตุเพราะความสัมพันธ์ที่ขัดแย้ง ยันไม่มีปัญหาเรื่องชู้สาว และฝ่ายหญิงก็ไม่ได้มาเกาะเอาเงินตน
       
       “ส่วนภรรยาตอนนี้เราแยกกันอยู่แล้วครับ เหตุผลง่ายๆ เลยก็น่าจะเป็นเพราะอยู่ด้วยกันแล้ว มันไม่มีความสัมพันธ์ฉันท์สามีภรรยามากนัก เพราะต่างคนต่างทำงาน และงานเราเองก็ต้องตื่นเช้าแล้วกลับดึก ก็เลยแยกห้องกันอยู่ ซึ่งก็กลายเป็นว่าผมอยู่ห้องนึง แม่กับลูกเขาก็อยู่อีกห้องนึง ก็แยกกันมาตั้งแต่ลูกคลอดเลยครับ แล้วมาแยกกันจริงจังเลยก็ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา”
       
       “ที่ว่าผมมีผู้หญิงคนอื่นเขาเลยต้องหอบลูกหนีเนี่ย จริงๆ แล้วมีเกือบทุกวันนะ(หัวเราะ) ไม่หรอก คือผู้หญิงคนอื่นไม่ได้หมายความว่ามีเมียอีกคนนะ ไม่มี แต่ถามว่าไปเที่ยวไหมก็ไปเที่ยว แต่ไม่ได้หมายความว่ามีภรรยาใหม่อีกคนนึง แล้วมาวีนกันทะเลาะกัน แต่ไม่ใช่เพราะเรื่องนี้หรอก น่าจะเป็นเรื่องของความห่างเหินกันมากกว่า เพราะว่าเราแยกกันอยู่คนละห้อง เวลาเรากลับมาดึกๆ ก็กลัวลูกตื่น หรือบางทีเราต้องตื่นไปแต่เช้า ก็กลัวลูกตื่นมากินนม ตื่นมาอึ เราก็เลยแยกห้องกันอยู่”
       
       “ตอนนี้ผมก็ยังทำหน้าที่พ่ออยู่ แต่ไม่ได้อยู่บ้านเดียวกันแล้วครับ ลูกก็อยู่กับแม่ แม่เขารักลูกมาก ผมก็เลยให้อยู่กับเขาก็แล้วกัน แต่เราก็ยังคุยกันอยู่ แต่ไม่ใช่ว่าเขาหอบลูกหนีครับ ผมก็ยังส่งเสียเลี้ยงดูปกติ ก็คิดว่าน่าจะมีโอกาสได้กลับมาอยู่ด้วยกันอยู่แล้วล่ะ แต่ยังไม่มีโอกาสไปเจอลูกเลย ส่วนกระแสข่าวที่บอกว่าเขามาเกาะเรา มันก็ไม่ใช่เกาะหรอก เพราะมันเป็นหน้าที่ของเราอยู่แล้วที่จะต้องเลี้ยงดูภรรยาและลูก ถามว่าเกาะไหมก็ไม่ใช่ เราเต็มใจที่จะให้อยู่แล้ว ไม่เรียกว่าเป็นการเกาะกัน เราก็ต้องเลี้ยงภรรยา ซึ่งเขาก็เป็นภรรยาเรา แล้วนี่ก็ลูกเราก็ต้องเลี้ยงเขา ไม่ใช่ว่าเขามาเกาะ”
       
       เผยไม่ได้จดทะเบียนสมรสกับอดีตภรรยา เพราะหวั่นมีปัญหาเรื่องทรัพย์สิน
       
       “ผมกับภรรยาไม่ได้จดทะเบียนกันครับ ที่ไม่ได้จดไม่เกี่ยวกับเรื่องของไม่มั่นใจอะไร มันเกี่ยวกับทรัพย์สินและสรรพากร มันหนักตรงนี้แหละ ตอนนี้ภรรยากับลูกผมน่าจะอยู่ที่ชลบุรี ก็ไม่ได้ถึงกับไปง้อครับ แต่ว่าไปหามากกว่า เขาก็อยู่หลายที่ หลังมีข่าวนี้ออกมาเราก็ยังไม่ได้คุยกันเลย เมื่อคืนกว่าจะเสร็จงานก็เที่ยงคืนกว่า วันนี้ก็เลยยังไม่ได้โทรหา ล่าสุดที่เจอลูกกับภรรยาก็เมื่อเดือนกันยายน เพราะเขาไม่เข้ามา เราก็เลยต้องไปเอง ตอนนี้ลูกขวบกับสี่เดือนแล้วครับ”
       
       ยอมรับเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เลยทำให้กลับมาดื่มแอลกอฮอล์อีกครั้ง ส่งผลกระทบกับเรื่องงานถูกค่ายทีวีธันเดอร์ ลงโทษพักงานยาวไปถึงช่วงปีใหม่
       
       “ก็ยอมรับว่ามีเฮิร์ทนิดหน่อย ก็มีดื่มๆ บ้าง คือหลังจากขวบนึงที่เราใช้ชีวิตอยู่ในบ้านกับเขา บางทีเรากลับไปได้เห็นหรือบางทีได้กลิ่นมันก็มีบ้าง แต่ดื่มไม่หนักนะครับ ดื่มเบาๆ ดื่มทีละแก้ว ไม่ได้ดื่มทีละขวด ก็ดื่มวันเว้นวัน แต่ไม่ใช่ดื่มจนอาการทรุดหรอก แต่ดื่มแล้วคุมไม่ได้มากกว่า แต่จริงๆ แล้วต้องขอบอกว่าไม่เคยเป็นแอลกอฮอล์ลิซึ่มนะครับ แต่ว่าเป็นโรคติดบรรยากาศมากกว่า ติดบรรยากาศของเพื่อน ของโคโยตี้ คือเป็นคนใจบุญ ทุกอาทิตย์ต้องไปปล่อยโคครับ(หัวเราะ)”
       
       “คือตั้งแต่เข้าวงการมาเพื่อนๆ ทุกคนก็จะรู้อยู่แล้วว่า ถ้าเราดื่มแล้วเราสนุก เพราะฉะนั้นก็มักจะมีคนชวนไปดื่มตลอดเวลาเพราะว่าสนุก หรือถ้าเราไปแล้วเราไม่ดื่มมันก็จะกลายเป็นเรื่องแปลก เพื่อนๆ ก็จะงงๆ ว่าทำไมไม่ดื่ม ทุกวันนี้ก็ยังเที่ยวบ้างครับ แต่พักหลังๆ นี้ไม่ค่อยดื่มเยอะแล้วนะ เป็นแค่ความสนุกเฉยๆ เรื่องที่ว่าผมดื่มหนักจนถูกปลดจากละครและรายการ อันนี้ก็ถือเป็นการสั่งสอนจากทางทีวีธันเดอร์ เพราะจริงๆ ทางธันเดอร์ได้เตือนมาหลายครั้งแล้วว่า ให้เพลาๆ ลงบ้าง อย่าให้เสียงาน และทำเสียงานมาหลายครั้ง ทางธันเดอร์ก็เลยพักงาน เห็นทางเจ้านายบอกว่าจะพักถึงตอนปีใหม่”
       
       “ผมถูกพักงานมาตั้งแต่เดือนสิงหาคมครับ แต่ที่มีออกอากาศอยู่ก็คือเทปที่อัดไปแล้ว ก็หลังจากหมดทัณฑ์บนแล้วเจ้านายบอกว่าจะให้กลับไปทำต่อ ก็ต้องแล้วแต่ความกรุณาของเจ้านายด้วย ตอนนี้ที่หยุดไปก็มีรายการ โอโน่, สะบัดช่อ แล้วก็ซิทคอม หลวงตามหาชน ทั้งหมดเลย ก็คงต้องปรับเปลี่ยนตัวเอง ตอนนี้ก็เปลี่ยนแล้ว ถ้าให้บอกกันตรงๆ เลยก็คือ เมื่อก่อนที่เหลวไหลก็คือดื่ม ตื่นมาก็ดื่มเลย ล้างคอก่อน(หัวเราะ) บางทีมันมีเสลด แล้วพอดื่มมันก็มีอาการ คืออาการมันฟ้องเลย วันนั้นถ่ายๆ อยู่ก็ถูกสั่งกลางอากาศเลยพักๆ กลับบ้านไป พอวันรุ่งขึ้นก็มีโทรศัพท์มาจากห้องประชุม ห้องเย็น(หัวเราะ) ก็พักงานไป แต่ตอนนี้ก็ดื่มน้อยลงครับ อย่างวันไหนที่มีงาน อย่างเมื่อวานมีการเลี้ยงปิดกล้องเราก็ไป ดื่มเสร็จก็กลับ พอตื่นมาก็ทำงาน”
       
       “เจอทั้งเรื่องเลิกภรรยา เรื่องข่าว แล้วยังถูกพักงาน สภาพจิตใจก็ย่ำแย่บ้างนะครับ แต่พูดถึงการเปลี่ยนแปลง มันก็ทำให้เราเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น จากที่ธันเดอร์สั่งสอนมาก็ทำให้เราปรับปรุงตัว ซึ่งมันก็เป็นผลดีกับตัวเอง ที่ธันเดอร์ตักเตือนเราแบบนี้ แต่จริงๆ ช่วงพักงานก็ไม่ได้ว่างนะ เผอิญมีละคร 2 เรื่อง ก็ถ่ายทั้ง 2 เรื่อง 7 วันเลย ไม่ได้หยุดเลย ก็มีเรื่อง ปลาไหลป้ายแดง ถ่ายมา 5-6 เดือนแล้ว ก็ถ่ายมาตั้งแต่ก่อนถูกพักงาน แล้วก็อีกเรื่องนึงก็ถ่ายไปพร้อมๆ กัน ทั้งอาทิตย์ก็เลยจะไม่ว่างเลย ก็คืองานที่ถูกพักเป็นงานเฉพาะของธันเดอร์ครับ”


ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)