Author Topic: ลดละเมิดลิขสิทธิ์ 2 ปี รัฐเก็บภาษีเพิ่ม 2.9 พันล้าน  (Read 1048 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai



      บีเอสเอเผยผลวิจัยการหากไทยลดการละเมิดลิขสิทธิ์ใน 2 ปีจะก่อให้เกิดประโยชน์ทางธุรกิจถึง 5.3 หมื่นล้านบาท และช่วยให้เกิดการจ้างงานใหม่ 2,175 ตำแหน่ง รัฐจะจัดเก็บภาษีเพิ่มขึ้น 2,900 ล้านบาท
       
       นายโรแลนด์ ชาน ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของกลุ่มพันธมิตรธุรกิจซอฟต์แวร์ (บีเอสเอ) เปิดเผยว่า การลดการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์บนพีซี จะสามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและจีดีพีประเทศไทย รวมถึงเพิ่มการจ้างงานใหม่ และยังสามารถช่วยให้รัฐบาลจัดเก็บภาษีรายได้เพิ่มขึ้น
       
       ทั้งนี้ จากผลการศึกษาล่าสุดโดย บีเอสซี และบริษัทวิจัยไอดีซีพบว่า การลดการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ในประเทศไทยได้ 10 จุดใน 2 ปีจะสามารถก่อให้เกิดปะโยชน์ทางธุรกิจมูลค่า 51,300 ล้านบาท ก่อให้เกิดการจ้างงานใหม่กว่า 2,175 ตำแหน่ง และรัฐจะสามารถจัดเก็บภาษีรายได้เพิ่มขึ้น 2,900 ล้านบาท
       
       อย่างไรก็ดี หากไทยสารมารถลดการละเมิดลิขสิทธิ์ได้ 10จุดภายใน 4 ปี จะก่อให้เกิดประโยชน์ทางธุรกิจมูลค่า 38,900 ล้านบาท และรัฐจะสามารถจัดเก็บภาษีรายได้เพิ่มขึ้น 2,200 ล้านบาท
       
       ปีที่ผ่านมาประเทศไทยมีการละเมิดซอฟต์แวร์ถึง 75 % ของจำนวนซอฟต์แวร์ ลดจากลดลงจากปี 2551 ที่มีอัตราการละเมิดซอฟต์แวร์ 76 % นอกจากนี้ จากสถิติ 4 ปีที่ผ่านมาประเทศไทยสามารลดการละเมิดลิขสิทธิ์ได้ 5 จุด
       
       นายโรแลด์กล่าวว่า ปัญหาอุปสรรคที่ทำให้ประเทศไทยมีการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ในอัตราที่สูงอยู่เป็นเพราะที่ผ่านมายังขาดการให้ความรู้ความเข้าใจกับผู้ใช้ทั่วไป หน่วยงานภาคเอกชน และหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวต้องอาศัยระยะเวลาอีกพอสมควร นอกจากนี้ ยังประสบปัญหาประสานงานกับหน่วยงานภารัฐ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับซอฟต์แวร์เพื่อช่วยสนับสนุนวางแนวทางนโยบายที่เป็นกลาง ที่สำคัญอีกปัญหาหนึ่งคือการประเทศไทยยังไม่มีการบังคับใช้กฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์ที่ดีอยู่แล้วให้เป็นผลมากเท่าที่ควร และนอกจากการบังคับใช้กฎหมายควรมีมาตราการอื่นๆมาช่วยสนับสนุนให้เห็นผลได้มากขึ้น
       
       อย่างไรก็ดี รัฐบาลไทยไม่ควรสนับสนุนการใช้โอเพ่นซอร์สเพียงอย่างเดียว โดยรัฐบาลควรมีนโยบายที่เป็นกลางสนับสนุนทั้งโอเพ่นซอร์สและการใช้ซอฟต์แวร์ลิขสิทธิเพราะผู้ใช้ควรมีโอกาสเลือกใช้สิ่งที่เหมาะสมกับความต้องการ


ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)