(http://pics.manager.co.th/Images/553000015196501.JPEG)
กูเกิล (Google) ยักษ์ใหญ่อินเทอร์เน็ตประกาศว่ากำลังอยู่ระหว่างการทดสอบรถสมองกลที่ควบคุมระบบขับเคลื่อนโดยไม่ต้องมีคนขับได้อย่างสมบูรณ์ ระบุระบบรถอัจฉริยะนี้ผ่านการทดสอบเป็นระยะทางมากกว่า 140,000 ไมล์ในแคลิฟอร์เนีย โดยสามารถรับรู้ระดับความเร็วที่จำกัดในแต่ละย่าน แถมยังรับรู้ระเบียบการจราจรที่กำหนดไว้ได้ด้วย
เซบาสเตียน ธรัน (Sebastian Thrun) วิศวกรกูเกิลประกาศความเคลื่อนไหวนี้ในบล็อกของบริษัท ว่าจุดมุ่งหมายของการพัฒนาระบบรถขับสมองกลคือการแก้ปัญหาความปลอดภัยและประสิทธิภาพของรถยนต์ โดยจะมุ่งป้องกันอุบัติเหตุ เพิ่มความยืดหยุ่นให้ผู้ขับขี่สามารถนำเวลาที่เหลือไปใช้ประโยชน์อื่น และลดปริมาณคาร์บอนที่เกิดขึ้นจากการใช้งานพื้นฐาน
"ดังนั้น เราจึงพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับรถยนต์ที่สามารถขับเคลื่อนด้วยตัวเอง รถอัตโนมัติของเราซึ่งมีทีมงานอยู่ด้วยสามารถเคลื่อนที่จากสำนักงานใหญ่กูเกิล (Mountain View campus) ไปยังออฟฟิศกูเกิลในเมืองซานตาโมนิคกา เรื่อยไปจนถึง Hollywood Boulevard ก่อนจะแล่นบนเส้นทางอื่นๆกว่า 140,000 ไมล์ (225,302 กิโลเมตร) ถือเป็นระยะทางที่ยาวที่สุดในกระบวนการวิจัยรถสมองกลทั่วโลก"
ซอฟต์แวร์และระบบรถยนต์อัตโนมัติของกูเกิลทำบนรถยนต์ Toyota Prius จำนวน 6 คัน (รถรุ่นเดียวกับที่กูเกิลใช้สำรวจในโครงการระบบแผนที่ Street View ระบบแผนที่ที่ผู้ใช้จะสามารถเห็นภาพริมถนนเสมือนจริง) และ Audi TT อีก 1 คัน ธรันอธิบายว่าระบบรถยนต์อัตโนมัติของกูเกิลประกอบด้วยกล้องถ่ายวิดีโอ เซ็นเซอร์ เรด้า และอุปกรณ์ตรวจจับระยะไกลที่จะทำให้ระบบสามารถคำนวณสภาพการจราจรแวดล้อมเพื่อจำลองการตัดสินใจของมนุษย์พลขับ ก่อนเอาท์พุตออกมาเป็นการขับขี่ที่ถูกต้องตามกฏ ซึ่งระบบจะสามารถปรับการขับขี่ตามป้ายความเร็วที่กำหนดไว้ริมทางได้อย่างแม่นยำ
จุดนี้กูเกิลระบุว่าจะสามารถลดการสูญเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์จากกรณีขับรถเร็วเกินไปได้ โดยข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก World Health Organization ระบุว่าผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ทั่วโลกมีจำนวนมากถึง 1.2 ล้านคนต่อปี
ขณะเดียวกัน ระบบจะสามารถประมวลผลบนระบบแผนที่ซึ่งจะทำให้การนำทางบนถนนเป็นไปอย่างสมบูรณ์ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะธรันคือวิศวกรวัย 43 ปีที่อยู่เบื้องหลังระบบแผนที่ Street View ของกูเกิล และหากพลขับต้องการความมั่นใจก็สามารถนั่งหลังพวงมาลัยได้เพื่อควบคุมรถแบบทันทีในกรณีฉุกเฉิน
อย่างไรก็ตาม ระบบรถอัจฉริยะนี้ยังไม่ถูกตั้งชื่อ และกูเกิลยืนัยนว่าจะต้องใช้เวลาพัฒนาอีกหลายปีกว่าระบบดังกล่าวจะถูกพัฒนาเพื่อการพาณิชย์ในวงกว้าง
Company Related Link :
Google
ที่มา: manager.co.th