Nick Computer Services

News & Public Relation => IT News => Topic started by: Nick on July 05, 2016, 01:10:41 PM

Title: Facebook เพิ่มตัวช่วยให้โพสต์ของคุณ เข้าถึงผู้ใช้ต่างภาษาได้ง่ายขึ้น
Post by: Nick on July 05, 2016, 01:10:41 PM
(http://uppic.nickcs.com/upload/big/2016/07/05/577b4ec25d926.png) (http://board.nickcs.com/go.php?http://uppic.nickcs.com/img-577b4ec25dd0b.html)

อย่างที่ทราบกันดีว่า เฟสบุ๊คมีผู้ใช้งานมากถึง 1.65 พันล้านคนทั่วโลก แต่สิ่งที่เราจะมองข้ามไม่ได้เลยคือ ความแตกต่างของภาษาที่ใช้งาน เพราะมีภาษาที่แตกต่างกันมากมายถูกนำมาใช้บนเฟสบุ๊ค

ด้วยเหตุผลดังกล่าว เครือข่ายสังคมออนไลน์ยักษ์ใหญ่ จึงต้องการทำให้การใช้งานนั้นง่ายขึ้นในการสื่อสารกับคนทั่วโลก แม้ว่าผู้ใช้งานจะไม่สามารถใช้ภาษาอื่นได้นอกจากภาษาของตนเอง โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เฟสบุ๊ค ได้เปิดตัวซอฟแวร์ใหม่ที่จะสามารถแปลโพสต์ของคุณให้เป็นภาษาอื่น ๆ ได้โดยอัตโนมัติ


วิธีการใช้งาน เพียงพิมพ์โพสต์ของคุณ คลิกเลือกที่เมนู และเลือกภาษาที่ต้องการ โดยผู้ใช้งานสามารถเลือกภาษาที่ต้องการแปลได้มากถึง 45 ภาษา เช่น ภาษาฝรั่งเศส-->ภาษาฟิลิปปินส์-->ภาษาลิทัวเนีย เป็นต้น

ซอฟต์แวร์ดังกล่าวถูกเรียกว่า "multilingual composer" ซึ่งยังถูกทดสอบเฉพาะกลุ่มผู้ใช้งานบางกลุ่มเท่านั้น โดยมีการทดสอบแล้วกับหน้า Facebook Pages ซึ่งเกี่ยวข้องกับพวกธุรกิจและแบรนด์ และตอนนี้ได้เปิดให้ทดสอบในวงกว้างขวางมากยิ่งขึ้น โดยมีการใช้งานบนเพจไปแล้วกว่า 5,000 เพจ

เฟสบุ๊ค กล่าวว่า กว่าครึ่งหนึ่งของจำนวนผู้ใช้งานทั้งหมดใช้ภาษาอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ เครื่องมือใหม่จะใช้ AI ในการเติมการแปลภาษาเข้าไปเมื่อพบว่ามีภาษาที่แตกต่างกันในโพสต์ โดยซอฟต์แวร์จะใช้ข้อมูลตำแหน่งที่อยู่ของผู้ใช้งาน, การตั้งค่าภาษา และภาษาที่คนส่วนใหญ่นิยมใช้ในขณะนั้น เป็นตัวชี้วัดในการตัดสินใจที่จะแสดงภาษานั้น ๆ ออกมา

สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับธุรกิจของเฟสบุ๊ค นั่นก็คือ ยิ่งผู้ใช้งานมีการโพสต์เฟสบุ๊คมากเท่าไร จะเท่ากับใช้เวลาไปกับเฟสบุ๊คมากเท่านั้น ซึ่งเป็นผลดีต่อด้านโฆษณาที่เฟสบุ๊คได้รับมากยิ่งขึ้น

นอกเหนือจากเฟสบุ๊ค ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีอื่น ๆ ก็ได้มีการพยายามใช้ซอฟต์แวร์ในการเอาชนะอุปสรรคด้านภาษาเหมือนกัน ยกตัวอย่างเช่น กูเกิล ซึ่งมีแอปพลิเคชัน Translate และ ไมโครซอฟท์ กับโปรแกรม Skype Translator เป็นต้น

ที่มา CNET

ที่มา: pantip.com