(http://uppic.nickcs.com/upload/big/2015/10/15/561f4acb4f66c.jpeg) (http://board.nickcs.com/go.php?http://uppic.nickcs.com/img-561f4acb4fa4f.html)
แม้จะผ่านการเผชิญหน้าในคดีสิทธิบัตรมาหลายครั้งทั้งในฐานะของการเป็นโจทก์และจำเลยจนทำให้เริ่มจะชาชิน แต่กระนั้น คดีละเมิดสิทธิบัตรรอบล่าสุดนี้อาจจะทำให้แอปเปิลต้องควักจ่ายเงินค่าชดเชยเป็นจำนวนมากที่สุดอีกครั้ง เมื่อคณะลูกขุนแห่งศาลสหรัฐฯ พบหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่า ผู้ผลิต iPhone ได้มีการใช้เทคโลยีที่สมาคมศิษย์เก่าวิจัยแห่งมหาวิทยาลัยวิสคอนซิน หรือ WARF เป็นเจ้าของโดยไม่ได้รับอนุญาต
ทั้งนี้ WARF ได้เริ่มต้นยื่นเรื่องฟ้องร้องแอปเปิลต่อศาลเมื่อปี 2014 โดยกล่าวหาว่า แบรนด์ดังได้มีการละเมิดสิทธิบัตรที่พวกเขาจดทะเบียนในปี 1998 สำหรับการปรับปรุงประสิทธิภาพของชิป A7, A8 และชิปประมวลผล A8X และแอปเปิลก็ได้ชิปดังกล่าวใน iPhone 5S, 6 และ 6 Plus และใน iPad อีกหลายรุ่น
อย่างไรก็ตาม แอปเปิลแย้งว่า ไม่ได้ทำการละเมิดเพราะสิทธิบัตรดังกล่าวมีความผิดพลาด และได้ร้องขอไปยังสำนักงานสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้าสหรัฐฯ ให้ทำการตรวจสอบเคสดังกล่าวอีกครั้ง ขณะที่ด้านผู้พิพากษา William Conley แสดงความคิดเห็นว่า แอปเปิลอาจจะต้องจ่ายเงินชดเชยสูงถึง 862.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จากกรณีนี้ และตัวเลขดังกล่าวอาจเพิ่มขึ้นได้อีกถ้าในท้ายที่สุดพบว่า แอปเปิลจงใจที่จะละเมิดสิทธิบัตร WARF
แอปเปิล ไม่ได้เป็นบริษัทไอทีรายแรกที่ตกเป็นจำเลยจากการฟ้องร้องของ WARF โดยปี 2008 สมาคมฯ ดังกล่าวได้เคยเปิดศึกกับอินเทลด้วยสิทธิบัตรฉบับเดียวกันมาแล้ว
ที่มา TechSpot
ที่มา: pantip.com