(http://uppic.nickcs.com/upload/big/2015/01/13/54b4c513d0d8f.png) (http://board.nickcs.com/go.php?http://uppic.nickcs.com/img-54b4c513d1177.html)
หลังเห็นแอปเปิลออก iPhone 6 ด้วยกันถึงสองรุ่นเมื่อปีก่อน ซัมซุง บอก Galaxy S6 ของตนที่จะเปิดตัวเร็วๆนี้ ก็จะมีสองรุ่นเหมือนกัน โดยรุ่นแรกจะใช้วัสดุเป็นโลหะ ในขณะที่อีกรุ่น จะมีขอบข้างด้านหนึ่งโค้งลงไปเหมือน Galaxy Note Edge
หลายๆคนคงกำลังรอซัมซุงออกสมาร์ทโฟนตัวใหม่ ต่อจาก Galaxy S5 ที่เปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว ล่าสุดมีข่าวลือแว่วๆมาว่า ปีนี้ ซัมซุง จะเปิดตัว Galaxy S6 ด้วยกันถึงสองรุ่น ได้แก่ รุ่นที่ทำจากโลหะ (จากเดิมที่ใช้พลาสติกเป็นวัสดุหลัก) ทั้งนี้ แหล่งข่าวไม่ได้กล่าวถึงว่า Galaxy S6 รุ่นใหม่นี้ จะมีวัสดุเป็นโลหะแบบ unibody ทั้งตัวเครื่อง หรือเฉพาะส่วน แต่จากข่าวลือเกี่ยวกับ S6 ที่ออกมาก่อนหน้า มีแนวโน้มที่จะเป็นแบบ unibody ทั้งตัวเครื่องมากกว่า ซึ่งแต่เดิม ซัมซุง ใช้พลาสติกเป็นวัสดุในการผลิตกรอบ แตกต่างจากคู่แข่ง iPhone ที่ใช้โลหะ โดยวัสดุที่เป็นพลาสติก หลายคนมองว่า ทำให้รู้สึกเหมือนกับว่าโทรฯมีราคาถูก ดังนั้น ซัมซุงจึงได้พยายามมุ่งไปที่วัสดุที่เป็นโลหะ เพื่อให้ดูมีมูลค่าเพิ่มขึ้น (ยกตัวอย่างรุ่นที่เป็นโลหะของซัมซุง เช่น Galaxy Alpha) และรุ่นที่สองของ Galaxy S6 ที่ลอกเลียนรูปแบบดีไซน์ขอบข้างโค้งมาจาก Galaxy Note Edge โดยจะใช้เป็นจอแสดงผลรอง แสดงไอคอนและวิดเจ็ต
แม้จะยังคงอยู่ในอันดับต้นๆในตลาดสมาร์ทโฟน แต่ในรอบปีที่ผ่านมา ซัมซุง ต้องเผชิญกับการแข่งขันที่เพิ่มมากขึ้นจากคู่แข่งที่น่ากลัวอย่าง แอปเปิล ซึ่งเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา เพิ่งได้เปิดตัว iPhone 6 และ iPhone 6 Plus ที่มีหน้าจอขนาดใหญ่ขึ้น อีกทั้ง ยังต้องถูกผู้ผลิตสมาร์ทโฟนอื่นๆ ออกโทรฯมือถือรุ่นราคาถูกมาตีตลาดอีก ยกตัวอย่างเช่น Xiaomi และ Huawei นี่คงเป็นความท้าทายที่ทำให้ซัมซุงต้องพยายามโชว์ให้เห็นว่า Galaxy S6 มีความเป็นพรีเมี่ยมและมีคุณสมบัติที่พอแข่งขันในตลาดโลกได้มากขึ้น
อนึ่ง Galaxy S6 มีแนวโน้มว่าจะเปิดตัวที่งาน Mobile World Congress ในเดือนหน้า (ก.พ.) นี้ สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมยังไม่มีข้อมูล แต่จากข่าวลือก่อนหน้า S6 จะมีหน้าจอ Quad HD ขนาด 5.5 นิ้ว (ความละเอียด 1,440x2,560 พิกเซล) มาพร้อมกล้องความละเอียดถึง 20 ล้านพิกเซล โดยจะรู้จักกันในนาม Project Zero ซึ่งหมายถึง การคิดใหม่ทำใหม่โดยเริ่มต้นจากศูนย์นั่นเอง
ที่มา CNET
ที่มา: pantip.com