(http://uppic.nickcs.com/upload/big/2014/03/19/53292decaafaa.jpeg) (http://board.nickcs.com/go.php?http://uppic.nickcs.com/img-53292decab391.html)
ทันทีที่มีข่าวการเข้าซื้อกิจการ WhatsApp ของโซเชียลเน็ตเวิร์กยักษ์ใหญ่ Facebook ที่ทุ่มเม็ดเงินมูลค่ากว่า 16 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ไปเมื่อช่วงกลางเดือนก่อน ก็มีคำถามตามออกมาทันควันถึงเรื่องของความเป็นส่วนตัวที่เกรงว่าถ้าทั้งสองมีการจับมือเป็นพันธมิตรกันก็อาจจะมีการนำข้อมูลที่มีอยู่ในมือนำไปใช้ให้เกิดรายได้ นั่นจึงทำให้เมื่อวานนี้ Jan Koum ซีอีโอ WhatsApp ออกโรงเคลียร์ชัดถึงประเด็นที่กำลังเป็นที่จับตามอง
โดย Koum อธิบายผ่านบล็อกหลักว่า เขาต้องการที่จะแก้ไขความเข้าใจผิดที่เกิดขึ้นกับจุดยืนของบริษัท ก่อนที่จะทำการเล่าเรื่องความทรงจำวัยเด็กที่เติบโตขึ้นมาในสหภาพโซเวียดในปี 1980 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เขามักจะได้ยินมารดาสนทนาทางโทรศัพท์ ก่อนที่จะบอกกับใครๆ ว่า นี่ไม่ใช่การสนทนาทางโทรศัพท์ แต่เป็นการถ่ายทอดเรื่องราวที่เกิดขึ้นแทน เนื่องจากเธอกลัวว่าการสื่อสารของเธอ จะถูกตรวจสอบโดยกลุ่มขบวนการ KGB และมันก็เป็นเหตุผลสำคัญว่า ทำไมครอบครัวของเขาถึงต้องย้ายถิ่นฐานมายังสหรัฐฯ ตั้งแต่เขาเป็นวัยรุ่น
และด้วยความทรงจำในวัยเด็กเช่นนี้ จึงทำให้ Koum รู้สึกว่าการเคารพความเป็นส่วนตัวมันอยู่ในสายเลือด DNA จึงทำให้เขาคิดที่จะสร้าง WhatsApp ให้รู้จักผู้ใช้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เขาสำทับเพิ่มเติมว่า ไม่จำเป็นที่จะต้องรู้ชื่อ, อีเมลล์ หรือแม้แต่วันเกิด, ที่อยู่, สถานที่ทำงาน และข้อมูลที่มีอยู่ก็จะไม่ถูกเก็บรวมไว้โดย WhatsApp และก็จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงด้วย
นอกจากนี้ Koum ยังทิ้งท้ายว่า ถ้าการเป็นพันธมิตรกับ Facebook หมายถึงการเปลี่ยนแปลงมูลค่าตนเอง พวกเขาก็จะไม่มีวันทำมัน และ WhatsApp ยังคงเป็นแอพพพลิเคชั่นที่ยึดมั่นในวิสัยทัศน์เดิม
ที่มา TechSpot
ที่มา: pantip.com