Nick Computer Services
News & Public Relation => IT News => Topic started by: Reporter on March 06, 2009, 11:12:11 PM
-
คอลัมน์ ไอทีทะลุโลก
โดย siripong@kidtalentz.com
ความเข้าใจเกี่ยวกับ "เน็ตบุ๊ก" ที่ผิดพลาดอย่างหนึ่งของพวก geek หรือพวกนักคอมพิวเตอร์ทั้งหลายก็คือ เดิมทีคนพวกนี้ไม่เชื่อว่าคอมพิวเตอร์พกพาที่เล็กกว่าโน้ตบุ๊กทั้งจอและคีย์บอร์ด ไม่มีช่องซีดี และราคาถูกๆ จะมีอนาคต
แต่แล้วหลังจาก "โอแอลพีซี" ออกมา ด้วยนวัตกรรมใหม่ฝีมือของ "แมรี ลูว์ เจพเซ่น" ที่คิดใหม่กับการสร้างโน้ตบุ๊ก และบริษัทอย่างอัสซุสจับทางออกส่ง eeepc มาลุยในตลาด แค่ไม่กี่เดือนในปี 2550 eeepc ขายไปได้ 350,000 เครื่อง และปีถัดมาถึง สิ้นปี 2551 ยอดขาย eeepc พุ่งไปที่ 5 ล้านเครื่อง รวมกับยี่ห้ออื่นที่ไล่ตามมาทีหลังอีก 10 ล้านเครื่อง ในระยะเวลาแค่ปีเดียว เน็ตบุ๊กทำส่วนแบ่งตลาดได้ถึง 7 เปอร์เซ็นต์ในตลาดโน้ตบุ๊ก
นี่คือปรากฏการณ์ที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ทำให้ geek หน้าหงายไปตามๆ กัน
ปีนี้แม้เศรษฐกิจจะตกต่ำและนักคอมพิวเตอร์บางส่วนที่ยังคงจับกฎเกณฑ์ใหม่ไม่ออก คิดว่าตลาดเน็ตบุ๊กยอดขาย เริ่มนิ่งแล้ว
พวกเขาคิดผิดอีกเช่นกัน เพราะยอดขายตามประมาณการในปีนี้จะยังคงเพิ่มขึ้นอีกเกือบเท่าตัว เพิ่มส่วนแบ่งตลาดขึ้นเป็น 12 เปอร์เซ็นต์
อะไรคือสิ่งที่เปลี่ยนไป
ปกติคอมพิวเตอร์นั้นจะส่งออกสู่ตลาดเพื่อดึงคนมีกำลังซื้อสูงในตลาดบนก่อน แล้วค่อยๆ ลดราคาลงมาสู่ตลาดล่าง
เน็ตบุ๊กกลับข้างกระบวนการดังกล่าว จริงๆ เริ่มต้นของมันจากโอแอลพีซีนั้นคือมุ่งไปสู่คนยากจนในประเทศโลกที่สาม ซึ่งไม่ได้ต้องการอะไรมากขึ้นจากคอมพิวเตอร์หรือโน้ตบุ๊ก แต่ต้องการน้อยลง ให้มันราคาถูกพอเข้าถึงได้
และในภาคธุรกิจ eeepc ก็เริ่มจากจุดนั้นเช่นกัน แต่ปรากฏว่าสิ่งที่ผลิตออกมาเพื่อตลาดล่างสุดๆ นั้นกลับเป็นที่ต้องการของคนในตลาดบนๆ ไปด้วย และไปได้ดีเกินกว่าที่คาดไว้ในทั้งสองตลาด
กระบวนการของการผลิตคอมพิวเตอร์เพื่อขายกลับข้างพีระมิดอย่างชัดเจน
การเติบโตของเน็ตบุ๊กยังสะท้อนให้เห็นอะไรอีกอย่างหนึ่งที่ยังไม่มีคนพูดถึง มันคือความตายของแผ่นซีดีครับ เน็ตบุ๊กให้คำตอบว่ามันไม่จำเป็นอีกต่อไปแล้ว ถ้าคนร่วมยี่สิบล้านคนซื้อมันไปใช้โดยไม่มีช่องซีดี และมันก็ยังจะขายดีต่อไปอีกในปีนี้และปีต่อๆ ไป ย่อมเป็นสัญญาณที่ชัดเจน
ที่มา: matichon.co.th