(http://uppic.nickcs.com/upload/big/2014/02/16/5300378353a2a.jpeg) (http://board.nickcs.com/go.php?http://uppic.nickcs.com/img-5300378353e03.html)
สายการบินสัญชาติเนเธอร์แลนด์เปิดมิติใหม่ด้านการชำระเงินในธุรกิจจองตั๋วเคื่องบินออนไลน์ ด้วยการให้เสรีลูกค้าสามารถชำระเงินผ่านโซเชียลมีเดียที่คุ้นเคยทั้ง Twitter หรือ Facebook ได้
รายงานระบุว่าไม่เพียงการชำระเงิน แต่สายการบิน KLM Royal Dutch Airlines ยังเปิดให้ผู้สนใจสามารถจองตั๋วเครื่องบินได้บน Twitter หรือ Facebook ด้วย โดยสามารถระบุที่นั่ง, ขอเปลี่ยนที่นั่ง และขอป้ายสัมภาระส่วนเกิน ก่อนจะชำระเงินได้โดยใช้ชื่อบัญชีที่ลงทะเบียนไว้กับ Twitter และ Facebook
การสร้างสรรค์บริการใหม่ของสายการบิน KLM ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ เนื่องจากก่อนหน้านี้ KLM พยายามเพิ่มความยืดหยุ่นให้บริการของตัวเองผ่านโซเชียลมีเดียมาตลอด ตัวอย่างเช่นปี 2012 สายการบินดัตช์ตัดสินใจใช้ Twitter เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถค้นหาเที่ยวบินราคาประหยัดที่สุดได้ แต่ครั้งนั้น ลูกค้าจะต้องชำระเงินผ่านช่องทางอื่น เรียกว่าไม่สามารถจ่ายเงินได้ผ่าน Twitter ได้เหมือนบริการใหม่ที่ถูกเปิดตัวในวันนี้
เบื้องหลังที่ทำให้สายการบิน KLM สามารถรับชำระเงินจากลูกค้าได้ผ่านโซเชียลมีเดีย คือสายการบินจะส่งลิงก์ชำระเงินให้ลูกค้าผ่านกล่องข้อความส่วนตัว (private message) ใน Twitter หรือ Facebook ลิงก์ดังกล่าวจะนำลูกค้าไปสู่เพจที่ทุกคนสามารถเลือกวิธีชำระเงินตามต้องการ โดยภายในลิงก์นี้จะทำให้ลูกค้าสามารถทำธุรกรรมการจองตั๋วเคื่องบินได้แบบสมบูรณ์
(http://uppic.nickcs.com/upload/big/2014/02/16/530037ac1a1d9.jpeg) (http://board.nickcs.com/go.php?http://uppic.nickcs.com/img-530037ac1a5c1.html)
ระบบชำระเงินนี้จะแจ้งเตือนทั้งลูกค้าและพนักงาน KLM ซึ่งเมื่อพนักงานได้รับข้อมูลยืนยันการชำระเงินแล้ว ลูกค้าก็จะได้รับข้อมูลยืนยันการชำระเงินด้วย เรียกว่าเป็นการสร้างความมั่นใจทั้ง 2 ฝ่าย
วิธีการรับชำระเงินรูปแบบใหม่นี้คือหนึ่งในแคมเปญที่สายการบินดัตช์ต้องการให้ลูกค้าได้รับความสะดวกสบายจากการประยุกต์ใช้โซเชียลมีเดีย ซึ่งมีโอกาสสูงที่จะทำให้แคมเปญนี้ถูกบอกต่อปากต่อปากถึงความง่ายและความตื่นเต้นกับประสบการณ์แปลกใหม่ในการเดินทาง
ผู้สนใจ สามารถติดตามรายละเอียดของบริการนี้ได้จาก ที่นี่ (http://board.nickcs.com/go.php?http://news.klm.com/klm-introduces-payment-via-facebook-and-twitter/)
ที่มา: manager.co.th