http://www.youtube.com/watch?v=WvREm7w4slk
(http://uppic.nickcs.com/upload/big/2014/01/05/52c98b2db25d9.jpeg) (http://board.nickcs.com/go.php?http://uppic.nickcs.com/img-52c98b2db29c2.html)
(http://uppic.nickcs.com/upload/big/2014/01/05/52c98b3cb60a6.jpeg) (http://board.nickcs.com/go.php?http://uppic.nickcs.com/img-52c98b3cb648b.html)
(http://uppic.nickcs.com/upload/big/2014/01/05/52c98b4bbed87.jpeg) (http://board.nickcs.com/go.php?http://uppic.nickcs.com/img-52c98b4bbf16d.html)
(http://uppic.nickcs.com/upload/big/2014/01/05/52c98b5bb459e.jpeg) (http://board.nickcs.com/go.php?http://uppic.nickcs.com/img-52c98b5bb498a.html)
หนึ่งในสองพี่น้องแห่งวงดนตรีแนวร็อค/คันทรี The Everly Brothers ที่มีเพลงฮิตมากมายในอดีตได้เสียชีวิตลงแล้ว ด้วยวัย 74 ปี
โดย Los Angeles Times ได้รายงานว่า ฟิล เอเวอร์ลี วัย 74 ปี คนน้องของวง The Everly Brothers ได้เสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 3 ม.ค. ที่ผ่านมาด้วสาเหตุจากโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังซึ่ง แพตตี้ ภรรยาของนักร้องผู้ล่วงลับได้เปิดเผยว่าโรคดังกล่าวเป็นผลมาจากการสูบบุหรี่มาทั้งชีวิตของ ฟิล และเขาต้องต่อสู้กับโรคมาอย่างยาวนาน จนเสียชีวิตลงในที่สุด
ฟิล และ ดอน เอเวอร์ลี ที่ตอนนี้อายุ 76 ปี ร่วมกันก่อตั้งวง The Everly Brothers และมีผลงานอัลบั้มแรกในปี 1958 ซึ่งตลอดระยะเวลาของการมีผลงานในวงการ ทั้งคู่มีเพลงฮิตติดชาร์ต Billboard Hot 100 ถึง 31 เพลง นอกจากนั้นยังมีเพลงที่ขึ้นไปติดอันดับ TOP10 ถึง 12 เพลง โดยผลงานที่ชื่อว่า Cathy's Clown สามารถขึ้นไปติดถึงอันดับ 1 ในปี 1960 ได้ 5 สัปดาห์ติดต่อกัน นอกจากนั้นยังประสบความสำเร็จในชาร์ตเพลงคันทรี Hot Country Songs มีเพลงติดอันดับ 1 ด้วยกันหลายเพลง อาทิ Bye Bye Love, Wake Up Little Susie, All I Have To Do Is Dream และ Bird Dog
ส่วนเพลงฮิตเพลงอื่น ๆ ของทั้งคู่ก็มีอย่าง Problems ที่ติดอันดับ 2 ในปี 1958, ('Til) I Kissed You เพลงฮิตติดอันดับ 4 เมื่อปี 1959 และ Let It Be Me ที่ติดอันดับ 7 ในปี 1960
นิตยสาร Billboard ยังเพิ่งจัดอันดับให้ The Everly Brothers เป็นศิลปินที่มีเพลงฮิตติดชาร์ต Hot 100 มากที่สุดเป็นอันดับที่ 66 ของประวัติศาสตร์ 55 ปีของการจัดอันดับชาร์ตดังกล่าว นอกจากนั้นทั้งคู่ยังได้รับการจัดอันดับให้เป็นศิลปินคู่ดูโอ่ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดเป็นอันดับ 3 เป็นรองเพียง Daryl Hall & John Oates และ The Carpenters เท่านั้น
นับจากการเริ่มต้นทำงานด้วยกันเมื่อปลายยุค 50s จนถึงในต้นยุค 70s ทั้งคู่เริ่มหันไปออกงานเพลงเดี่ยวดูบ้าง โดย ดอน เอเวอร์ลี ประสบความสำเร็จไปก่อน จนในปี 1983 ฟิล เอเวอร์ลี จึงแจ้งเกิดในฐานะศิลปินเดี่ยวด้วยอัลบั้มที่ใช้ชื่อว่า Phil Everly ซึ่งมีเพลงฮิต She Means Nothing to Me ติดชาร์ตเพลงคันทรี ซึ่งในปี 1983 สองพี่น้องได้กลับมาร่วมงานกันอีกครั้ง และรวมวงอยู่ด้วยกันจนถึงปัจจุบัน
ตลอดการทำงานมายาวนานมากกว่า 6 ทศวรรษ The Everly Brothers ถือว่าได้รับการยอมรับทั้งในวงการดนตรีร็อค และดนตรีคันทรี โดยพวกเขาทั้งสองถูกบันทึกชื่อขึ้นหอแห่งเกียรติยศของร็อคแอนด์โรลเมื่อปี 1986 ก่อนจะได้เข้าหอเกียรติยศของวงการคันทรีในปี 2001
สำหรับด้านชีวิตครอบครัว ฟิล เอเวอร์ลี แต่งงานกับ แพตตี้ และมีลูกด้วยกัน 2 คน นอกจากนั้นเขายังเป็นคู่ปู่ที่มีหลานสาวอีก 2 คนด้วย
ที่มา: manager.co.th