(http://upic.me/i/jk/nok31.jpg) (http://board.nickcs.com/go.php?http://upic.me/show/46997195)
วันที่ 9 กันยายน 2556 นายนิพนธ์ วิชัยรัตน์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่ เปิดเผยว่า พนักงานฝ่ายดูแลและเลี้ยงดูนกฟลามิงโก สวนสัตว์ฯ แจ้งว่า หลังจากที่นกฟลามิงโกตกไข่ออกมาจำนวน 1 ฟอง เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2556 ที่ผานมานั้น ล่าสุดเช้านี้ ลูกนกฟลามิงโก ได้ลืมตาดูโลกแล้วในสภาพปลอดภัย ท่ามกลางความดีใจของพนักงานสวนสัตว์เชียงใหม่เป็นอย่างมาก
"วันนี้เป็นวันที่ดี เพราะตรงกับวันที่ 9 เดือน 9 ปีที่ 9 ถือเป็นวันอภิมหามงคล เรียกว่าโชคดีมากๆ เพราะเป็นกำลังใจที่ดีแก่พนักงานสวนสัตว์ทุกคน ที่ตั้งใจเลี้ยงดูสัตว์ทุกตัวด้วยความรักและห่วงใย จึงหวังว่าจะเกิดสิ่งดีๆ ขึ้นกับทุกคน"
นายนิพนธ์ กล่าวว่า นกฟลามิงโก เป็นนกที่มีความสวยงาม เพราะมีลักษณะเด่นที่คอและขายาว ขนสีชมพู ขนปีกสีดำ ปากสีชมพู ปลายปีกสีดำ เชื่อว่า นกฟลามิงโกตัวน้อยจะกลายเป็นขวัญใจของเด็กๆ และนักท่องเที่ยวที่พบเห็นได้ไม่ยาก โดยครอบครัวนกฟลามิงโกจัดแสดงอยู่บริเวณด้านหน้าทางเข้าสวนสัตว์เชียงใหม่
ทั้งนี้นกฟลามิงโก มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Phoenicopterus roseus เป็นนกที่มีขนาดลำตัวประมาณ 100 เซนติเมตร ขนสีชมพู ขนปีกสีดำ ปากสีชมพู ปลายปีกสีดำ โดยเฉพาะในฤดูผสมพันธุ์สีจะสดกว่าปกติ นกตัวเมียมีขนาดเล็กกว่า และสีจางกว่า มีปากคล้ายเหงือกของปลาวาฬที่กรองเอาพวกแพลงตอนไว้ และระบายเอาน้ำออกได้หมดเวลากินอาหาร ถิ่นอาศัยแถวทวีปยุโรปจรดเอเชียบริเวณทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ทวีปแอฟริกา และอินเดียตะวันตกเฉียงเหนือ
นกฟลามิงโกกินสิ่งมีชีวิตในน้ำที่ไม่มีกระดูกสันหลังหรือเปลือก และพืชผักในน้ำเป็นอาหาร เช่น ไรน้ำ ลูกกุ้ง แพลงตอน และสาหร่ายบางชนิด ชอบอยู่รวมกันเป็นฝูงใหญ่ ตามหนองบึงหรือทะเลสาบ และทำรังตามชายฝั่งหนองบึงหรือทะเลสาบ นกชนิดนี้ผสมพันธุ์ในฤดูหนาว วางไข่บนพื้นดินตามชายฝั่งเท่านั้น โดยทำรังคล้ายตอไม้ด้วยดินเหนียวสูงประมาณ 15-18 นิ้ว วางไข่ครั้งละ 1 ฟอง ทั้งตัวผู้และตัวเมียช่วยกันกกไข่ ใช้เวลาในการฟักประมาณ 28-32 วัน
สำนักข่าวเห็ดลม รายงาน
ที่มา: hedlomnews.com