(http://upic.me/i/z5/5560000118957021.jpeg) (http://board.nickcs.com/go.php?http://upic.me/show/46986169)
(http://upic.me/i/ef/5560000118957031.jpeg) (http://board.nickcs.com/go.php?http://upic.me/show/46986177)
(http://upic.me/i/yt/5560000118957041.jpeg) (http://board.nickcs.com/go.php?http://upic.me/show/46986182)
กล่องบรรจุผลิตจากยางที่ใช้ในรถยนต์รุ่น Nismo
สมาร์ทวอตซ์ดังไม่เลิกล่าสุดนิสสันค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่สัญชาติญี่ปุ่นเกาะกระแสบ้าง ประกาศเปิดตัว “Nissan Nismo Watch” ในงาน Frankfurt Motor Show 2013 นี้ โดยนาฬิกาอัจฉริยะดังกล่าวจะเชื่อมระหว่างผู้ขับขี่และรถยนต์เข้าไว้ด้วยกันได้อย่างสมบูรณ์แบบ เพราะไม่เพียงแค่การเก็บข้อมูลทางกายภาพของผู้ขับขี่เท่านั้น แต่ยังรวมถึงการแสดงข้อมูลความพร้อมของรถยนต์ทั้งในส่วนของความเร็ว น้ำมัน และค่าเฉลี่ยการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง และยังรวมไปถึงการเชื่อมต่อสู่โลกโซเชี่ยลมีเดียได้ทันทีผ่านระบบบลูทูธ
‘Nissan Nismo Watch’ ถูกออกแบบให้มีความพอดีกับข้อมือด้วยรูปทรงกลมรอบข้อมือ ภายนอกดูคล้ายกำไลโลหะหนึ่งชิ้น ซึ่งมาพร้อมระบบอินเตอร์เฟสที่สามารถเชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์ต่างๆได้อย่างง่ายดาย สามารถชาร์จผ่านสายไมโครยูเอสบี โดยการชาร์จไฟ 1 ครั้งสามารถอยู่ได้นาน 7 วันสำหรับการใช้งานปรกติ โดดเด่นด้วยกล่องบรรจุภัณฑ์โดยนาฬิกาจะถูกบรรจุอยู่ภายในกล่องสี่เหลี่ยมที่สร้างจากยางรถยนต์ที่ใช้สำหรับซุปเปอร์คาร์รุ่น Nissan Nismo พร้อมไขน็อตเพื่อปิดล็อกอย่างเรียบร้อย
ระบบการเชื่อมต่อนาฬิกาเข้ากับรถยนต์ใช้แอปพลิเคชันบนมือถือสมาร์ทโฟนผ่านระบบบลูทูธ 4.0 ซึ่งถือว่าเป็นบลูทูธเทคโนโลยีล่าสุดที่ช่วยประหยัดพลังงานอุปกรณ์ต่อพ่วง และสามารถส่งผ่านสัญญาณได้ไกลถึง 200 ฟุต ตามมาตรฐานการส่งสัญญาณเดียวกับ Wi-Fi 802.11g นั่นเอง โดย ‘Nissan Nismo Watch’ จะเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่อยู่ในกลุ่มเดียวกับ Sony SmartWatch 2 และ Samsung Galaxy Gear ที่เปิดตัวไปก่อนหน้า
และแม้ว่า ‘Nissan Nismo Watch’ จะเป็นอุปกรณ์ที่พุ่งเป้าไปที่การตรวจจับข้อมูลทางด้านรถยนต์และการขับขี่เป็นหลัก แต่ก็ยังไม่ลืมในส่วนของโซเชี่ยลมีเดีย โดยสามารถใช้งานโซเชี่ยลมีเดียเช่น Facebook, Twitter, Pinterest และ Instgram ผ่านแอปพลิเคชัน Nissan's Social Speed software ที่ติดตั้งอยู่ภายในนาฬิกา
นิสสัน อธิบายว่า ‘Nissan Nismo Watch’ เป็นต้นแบบของการก้าวไปสู่เทคโนโลยีสำหรับการเป็นเครื่องประดับร่างกายต่อไปในอนาคต และสะท้อนให้เห็นทิศทางการพัฒนาเทคโนโลยีของนิสสันต่อไปในอนาคตที่ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่รถยนต์เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงอุปกรณ์อื่นๆที่เกี่ยวข้องกับการขับขี่อีกด้วย
“นิสสันผสมผสานเทคโนโลยีไบโอเมติกล่าสุดที่ได้จากการทดสอบและวิจัย เพื่อยกระดับสมรรถนะการขับขี่ให้ดียิ่งขึ้น โดยครั้งนี้นับเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่ช่วยเพิ่มประสบการณ์การขับขี่ที่ดีให้กับผู้ขับขี่” Gareth Dunsmore ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายสื่อสารการตลาด นิสสันยุโรป กล่าว
Company Related Link :
Nissan
ที่มา: manager.co.th