(http://upic.me/i/1s/5560000103320011.jpeg) (http://board.nickcs.com/go.php?http://upic.me/show/46450608)
(http://upic.me/i/oc/5560000103320021.jpeg) (http://board.nickcs.com/go.php?http://upic.me/show/46450609)
โฆษกของนินเทนโดออกมายืนยันว่าทางบริษัทยังคงขาดทุนกับการขาย "วียู" ทุกๆเครื่อง
โฆษกของนินเทนโดเปิดเผยผ่าน GamesIndustry International ระบุว่าเครื่องคอนโซลตัวใหม่ "วียู" ยังคงขายขาดทุน
ข่าวการขายเครื่องวียูขาดทุนนี้ ออกมาหลังจากการเปิดเผยผลประกอบการของนินเทนโดครั้งล่าสุดเพียงไม่กี่วัน ก่อนหน้านี้นินเทนโดออกมาเปิดเผยว่าในปีงบประมาณล่าสุดมียอดขาดทุนจากการดำเนินงาน 387 ล้านเหรียญสหรัฐ โดย "ซาโตรุ อิวาตะ" ประธานนินเทนโดยอมรับว่าเหตุผลหลักที่ขาดทุนมาจากยอดขายฮาร์ดแวร์เครื่องเกมร์ที่ตกต่ำไม่เป็นอย่างที่คาดการณ์เอาไว้ แต่ก็ยังมีความเชื่อมั่นว่าจะเข้าสู่ภาวะทำกำไรได้ในอนาคตอันใกล้
อิวาตะ กล่าวในงานแถลงผลประกอบการบริษัทที่จัดขึ้นในสัปดาห์นี้ว่า "นินเทนโดขาดทุนจากการดำเนินงานในปีงบประมาณปัจจุบันที่สิ้นสุดในวันที่ 31 มีนาคม ปี 2013 อย่างไรก็ตามเราพยายามกันอย่างหนักที่จะทำให้นินเทนโดกลับมาทำกำไรได้ในปีงบประมาณหน้าที่จะสิ้นสุดในเดือนมีนาคม ปี 2014 ด้วยการนำเสนอเกมและบริการที่น่าสนใจสู่เกมเมอร์"
ไม่นานนักก่อนที่นินเทนโดจะเปิดวางจำหน่ายเครื่องวียูในปี 2012 "อิวาตะ" เคยออกมาเปิดเผยเป้าหมายของนินเทนโดว่าต้องการขายเครื่องวียูในราคาที่สมเหตุสมผล ซึ่งเป้าหมายดังกล่าวทำให้นินเทนโดต้องตั้งราคาขายเครื่องให้ต่ำกว่าราคาต้นทุนจริงของเครื่อง ด้าน "เรจจี้ ฟิล ไอเม่" ประธานนินเทนโดอเมริกา ก็เคยแสดงความเห็นไว้ก่อนที่วียูจะเปิดวางจำหน่ายว่า เครื่องวียูจะสามารถทำกำไรได้ทันทีหากว่าผู้ซื้อมีการซื้อเกมพ่วงกับเครื่องไปอีก 1 เกม
เรจจี้ เคยพูดไว้ก่อนเครื่องวียูเปิดวางจำหน่ายว่า "ทันทีที่ผู้บริโภคซื้อเกมของเราหนึ่งเกม จะส่งผลให้เราทำกำไรได้ ในท้ายสุดโมเดลธุรกิจก็ยังคงต้องพยายามขายเครื่องให้มีราคาถูกเพื่อให้มีเครื่องอยู่ตามครัวเรือนให้เยอะที่สุด จากนั้นก็พยายามขายซอฟต์แวร์เกมให้ได้มากๆ รวมถึงให้ประสบการณ์ที่ดีกับผู้บริโภค ซึ่งถ้าหากเราทำได้ บริษัทก็จะมีกำไร"
แม้ว่าจะพยายามขายเครื่องวียูอย่างเต็มที่แล้วแต่ตัวเลขก็ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ ระหว่างเดือนเมษายนถึงมิถุนายน เครื่องวียูทำยอดขายทั่วโลกได้ 160,000 เครื่อง และทำยอดขายรวมตั้งแต่เปิดจำหน่ายได้ 3.61 ล้านเครื่อง
ข้อมูลและภาพประกอบจาก
gamespot.com
ที่มา: manager.co.th