Nick Computer Services

News & Public Relation => IT News => Topic started by: Nick on August 07, 2013, 01:10:07 PM

Title: WhatsApp ผ่านหลักไมล์ที่ 300M เพิ่มฟังก์ชั่นข้อความเสียง
Post by: Nick on August 07, 2013, 01:10:07 PM
(http://upic.me/i/nr/1375844582-whatsappvo-o1.png) (http://board.nickcs.com/go.php?http://upic.me/show/46383046)

แอพฯแชทยอดนิยม WhatsApp สามารถเพิ่มผู้ใช้ได้กว่า 50ล้านคน ในเวลาเพียงไม่ถึงสองเดือน และปัจจุบันมีสถิติการส่งข้อความกว่า 31พันล้านข้อความต่อวัน

โดย WhatsApp บริการรับ-ส่งข้อความบนมือถือ ได้รับการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมีผู้เข้าใช้งานมากกว่า 300ล้านคน ซึ่งเพิ่มขึ้นมาจาก 250ล้านคนเมื่อสองเดือนก่อน และเพื่อเป็นการตอบแทนผู้ใช้ที่ให้การสนับสนุนตลอดมา WhatsApp จะมีการเพิ่มฟังก์ชั่นรูปแบบใหม่ในการส่งข้อความ "วันนี้ เราภูมิใจที่จะประกาศว่า WhatsApp มียอดผู้ใช้เกินกว่า 300ล้านคนต่อเดือนทั่วโลกแล้ว โดยถือเป็นหลักไมล์บนเส้นทางที่จะทำให้ WhatsApp เริ่มกลายเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายการสื่อสารในยุคศตวรรษที่ 21" ตัวแทนจากบริษัทกล่าว "ในโอกาสนี้ เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะแนะนำคุณสมบัติใหม่ Voice Messaging ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้ของเรา ง่ายและสะดวกในการติดต่อสื่อสารแบบเรียลไทม์โดยใช้ข้อความเสียงกับเพื่อนและครอบครัว ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ห่างออกไปเป็นพันๆไมล์ก็ตาม"

อนึ่ง WhatsApp เป็นบริการส่งข้อความข้ามแพลตฟอร์มที่ทำงานได้ทั้ง iPhone, Android, BlackBerry, Windows Phone และ Symbian และยังได้รับความนิยมจากผู้ใช้ที่มีอายุน้อย เพื่อเป็นทางเลือกในการส่งข้อความแบบไม่เสียค่าใช้จ่าย โดยเมื่อกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ตัวแทนจากบริษัทได้ออกมากล่าว พวกเขามีการจดบันทึกไว้ว่า ในช่วงตลอดหนึ่งวัน มีการส่งข้อความทั้งสิ้น 27พันล้านข้อความ และในปัจจุบัน WhatsApp มีการส่งข้อความออก 11พันล้านข้อความ และรับข้อความเข้าถึง 20พันล้านข้อความ หรือรวมเป็นเท่ากับ 31พันล้านข้อความในหนึ่งวัน นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังมีการส่งรูปภาพถึงกันอีกกว่า 325ล้านรูปภาพในแต่ละวันอีกด้วย

โดยการใช้งานฟังก์ชั่นใหม่นี้ จะสามารถใช้งานได้ง่าย แค่เพียงแตะค้างไว้ที่ไอคอนรูปไมโครโฟน เพื่อทำการบันทึกเสียง และส่งออกโดยการกดที่ปุ่ม release หรือจะสไลด์ไปทางซ้ายเพื่อยกเลิกการบันทึก ซึ่งคุณสมบัติดังกล่าวจะส่งออกไปยังผู้ใช้ทั้งหมดทุกแพลตฟอร์มภายใน 24 ชั่วโมงนี้

ที่มา CNET

ที่มา: pantip.com