Nick Computer Services

News & Public Relation => General News => Topic started by: Nick on July 30, 2013, 08:49:20 PM

Title: BMW เปิดตัว รถยนต์ไฟฟ้า “i3” วิ่งได้เร็วสุด 160 กม./ชม. เริ่มต้น 1.3 ล้านบาท
Post by: Nick on July 30, 2013, 08:49:20 PM
(http://upic.me/i/53/5560000098167011.jpeg) (http://board.nickcs.com/go.php?http://upic.me/show/46238300)

(http://upic.me/i/hw/5560000098167021.jpeg) (http://board.nickcs.com/go.php?http://upic.me/show/46238303)

(http://upic.me/i/a2/5560000098167031.jpeg) (http://board.nickcs.com/go.php?http://upic.me/show/46238305)

(http://upic.me/i/4m/5560000098167041.jpeg) (http://board.nickcs.com/go.php?http://upic.me/show/46238307)

(http://upic.me/i/3w/5560000098167051.jpeg) (http://board.nickcs.com/go.php?http://upic.me/show/46238312)

(http://upic.me/i/z0/5560000098167071.jpeg) (http://board.nickcs.com/go.php?http://upic.me/show/46238314)

  เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-บีเอ็มดับเบิลยูผู้ผลิตยานยนต์ชื่อดังจากเยอรมนีสร้างความฮือฮาด้วยการเปิดตัว “ไอ 3”รถยนต์คอมแพ็คต์ซึ่งขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า
       
          รายงานข่าวซึ่งอ้างนอร์เบิร์ต ไรต์โฮเฟอร์ ซีอีโอของบริษัทระบุว่า บีเอ็มดับเบิลยู ไอ 3 ถูกออกแบบให้ใช้วัสดุประเภทคาร์บอน-ไฟเบอร์เป็นหลัก ส่งผลให้ตัวรถมีน้ำหนักเบา โดยมีข้อมูลว่ารถยนต์ไอ3 บางตัวอาจมีน้ำหนักรวมเพียง 1,195 กิโลกรัมเท่านั้น แต่ยังคงสามารถทำอัตราเร่งจาก 0 – 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยใช้เวลาเพียง 7.2 วินาที และสามารถทำความเร็วสูงสุดขณะขับขี่ได้ระหว่าง 130-160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

       
          ทางบีเอ็มดับเบิลยูระบุว่า รถยนต์นั่งขนาด 4 ที่นั่งรุ่นนี้ จะถูกผลิตที่โรงงานในเมืองไลป์ซิจทางตะวันออกของเยอรมนี โดยใช้แบตเตอรีประเภทลิเธียม ไอออนแบบ 22 กิโลวัตต์ชั่วโมงเป็นพื้นฐาน และมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ 130 กิโลวัตต์ อย่างไรก็ดี การชาร์จไฟจนเต็ม 1 ครั้งอาจต้องใช้เวลานานถึง 4 ชั่วโมง
       
          ทั้งนี้ รถยนต์นั่งขนาดเล็กรุ่น ไอ3 เป็นส่วนหนึ่งของโครงการวิจัย “โปรเจกต์ ไอ” ของทางบีเอ็มดับเบิลยูซึ่งโครงการดังกล่าวเริ่มเปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2011 โดยคาดว่า บีเอ็มดับเบิลยูจะวางจำหน่ายรถรุ่นนี้ในเยอรมนีและเนเธอร์แลนด์ ภายในเดือนพฤศจิกายน ปีนี้ด้วยสนนราคาเริ่มต้นราว 35,000 ยูโร (ราว 1.45 ล้านบาท) ส่วนการวางจำหน่ายในสหรัฐฯและแคนาดาคาดว่าอาจเริ่มได้ภายในช่วงครึ่งแรกของปีหน้า ด้วยราคาเริ่มต้นประมาณ 42,275 ดอลลาร์ (ราว 1.32 ล้านบาท)

ที่มา: manager.co.th