Nick Computer Services

News & Public Relation => IT News => Topic started by: Nick on May 10, 2013, 11:38:21 AM

Title: นายณรงฤทธิ์ สุขสาร ผู้ต้องสงสัยแฮกเว็ปไซต์สำนักนายกฯ เข้าให้ปากคำ "ปอท."
Post by: Nick on May 10, 2013, 11:38:21 AM
(http://upic.me/i/7e/13681593631368159383l1.jpg) (http://board.nickcs.com/go.php?http://upic.me/show/44780340)

นายณรงฤทธิ์ สุขสาร อายุ 29 ปี ชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่าเป็นมือแฮก เว็ปไซต์สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าพบพลตำรวจตรีพิสิษฐ์ เปาอินทร์ ผู้บังคับการการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ปอท. โดยยืนยันว่าไม่ได้เป็นผู้ลงมือแฮกเว็ปไซต์ และให้ร้ายนายกรัฐมนตรีด้วยข้อความไม่เหมาะสม แต่น่าจะถูกกลั่นแกล้งจากกลุ่มอัลลิมิเต็ดแฮกทีม เพราะก่อนหน้านี้ตัวเองเคยอยู่ในกลุ่มดังกล่าวมาก่อน แต่ต่อมาได้แยกตัว
 
ขณะเดียวกัน นายณรงค์ฤทธิ์ ระบุว่า ที่ตัดสินใจเข้าพบพลตำรวจตรีพิสิษฐ์ ก็เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ของและพร้อมให้คำปรึกษา รวมถึงแนวทางเกี่ยวกับวิธีการหลบเลี่ยงเจาะเข้าระบบของบรรดาแฮกเกอร์
 
ด้านพลตำรวจตรีพิสิฐษ์ กล่าวว่า จะให้เจ้าหน้าที่ทำการสอบสวนรานละเอียดเกี่ยวกับวิธีการการแฮกข้อมูล ด้านระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อให้ได้หลักฐานทางดิจิตอลในส่วนของนายณรงค์ฤทธิ์ จากนั้นจะนำตัวไปตรวจค้นบ้านพัก ย่านอาร์ซีเอ เพื่อหาข้อมูลจากคอมพิวเตอร์ส่วนตัวอีกครั้งซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่มีกลุ่มแฮกเกอร์เป้าหมาย ซึ่งมีศักยภาพในการเจาะเข้าเซิฟเวอร์ของเว็ปไซต์ต่างๆ ไม่เกิน 20 คน อยู่ระหว่างการรวบรวมรายชื่อ เพื่อติดตามหาตัวมาสอบสวน
 
ส่วนกรณีมีกระแสข่าวว่า มีพรรคการเมือง พรรคใหญ่ อยู่เบื้องหลังกลุ่มแฮกเกอร์ที่ก่อเหตุนั้น พลตำรวจตรีพิสิฐษ์ ระบุว่า เจ้าหน้าที่ยังสอบสวนไม่ถึงประเด็นดังกล่าว ซึ่งต้องได้ตัวผู้กระทำผิดมาก่อน จึงจะขยายผลได้ว่าใครเป็นผู้ว่าจ้าง และพรรคการเมืองใหญ่เป็นผู้อยู่เบื้องหลังตามกระแสข่าวหรือไม่ ทั้งนี้เบื้องต้นคาดว่าเจ้าหน้าที่จะใช้เวลาในการสอบปากคำนายณรงฤทธิ์ ประมาณ1ชั่วโมง
 
สำหรับกรณีดังกล่าวตกเป็นข่าวฮือฮา เมื่อช่วงเที่ยง วันที่ 8 พ.ค. ที่ผ่านมา โดยผู้สื่อข่าวได้เข้าไปตรวจสอบที่เว็ปไซต์สำนักนานกรัฐมนตรี ในหน้ารายชื่อคณะรัฐมนตรี พบว่าแฮกเกอร์ได้ทำการเปลี่ยนรูป ชื่อ และตำแหน่ง นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมเขียนข้อความระบุใต้ภาพ ด้วยความไม่เหมาะสม ซึ่งถือเป็นการกระทำที่กระทบต่อภาพลักษณ์ของรัฐบาล และทำลายความน่าเชื่อถือของประเทศ

ที่มา: matichon.co.th