(http://upic.me/i/y6/5550000160183021.jpeg) (http://board.nickcs.com/go.php?http://upic.me/show/41951257)
นิค ฮอร์ตัน กรรมการผู้จัดการภูมิภาคอินโดจีน ของริม
(http://upic.me/i/rs/5550000160183031.jpeg) (http://board.nickcs.com/go.php?http://upic.me/show/41951265)
จากซ้าย นิค ฮอร์ตัน กรรมการผู้จัดการภูมิภาคอินโดจีนของริม, ฟิลลิป แคลเวิร์ท เอกอัครราชทูตแคนาดา ประจำประเทศไทย และไตรรัตน์ ฉัตรแก้ว ผู้อำนวยการ SIPA สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ
หลังจากประสบความสำเร็จระดับหนึ่งจนกระแสในตลาดไทยเริ่มทรงตัว "ริม"ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนแบล็กเบอรี่ประกาศเปิดสำนักงานในประเทศไทยอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 14 ธ.ค. ที่ผ่านมา ย้ำต้องการสร้างจุดติดต่อประสานงานกับพันธมิตรทั้งรัฐและเอกชนให้สะดวกขึ้น ยังอุบเรื่องแผนการขยายช่องทางจัดจำหน่ายในปีหน้า ขณะที่ผู้คุมบังเหียนแบล็กเบอรี่ไทยมีดีกรีเป็นลูกหม้อเก่าโนเกีย มั่นใจการให้บริการ 3G เต็มรูปแบบที่จะเกิดขึ้นในไทยช่วงกลางปีหน้าจะเป็นโอกาสงามในการขยายตลาดแบล็กเบอรี่
นิค ฮอร์ตัน กรรมการผู้จัดการภูมิภาคอินโดจีน บริษัท รีเสิร์ช อิน โมชัน (ริม) ผู้ผลิตและจำหน่ายสมาร์ทโฟนแบล็กเบอรี่ ให้สัมภาษณ์ในงานฉลองการเปิดสำนักงานสาขาประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ว่าการเปิดสำนักงานในประเทศไทยจะเป็นการเพิ่มจุดติดต่อให้พันธมิตรในไทยสามารถพบเจอทีมงานริมได้สะดวกและรวดเร็วขึ้น ขณะเดียวกันก็จะทำให้ลูกค้าในไทยมีการโต้ตอบกับแบรนด์และกิจกรรมกับแบล็กเบอรี่มากขึ้น
"ริมมีแผนเปิดสำนักงานในไทยมานานมาแล้ว และในที่สุดก็สามารถเปิดได้สำเร็จ ที่ผ่านมา เรามีผู้ใช้หลายล้านคนในประเทศไทย เรามีพันธมิตรจำนวนมากในไทยทั้งด้านรีเทลและภาครัฐ ซึ่งเราลงทุนและสนับสนุนจนทำให้เกิดเป็นระบบนิเวศน์ทางเศรษฐกิจ (อีโคชิสเต็มส์) ที่ดี เชื่อว่าการเปิดสำนักงานจะทำให้ภาพรวมทั้งหมดเติบโตต่อไป"
นิคไม่ระบุว่าการเปิดสำนักงานในไทยจะทำให้เกิดการขยายช่องทางจำหน่ายนอกเหนือจากที่ร่วมมือกับ 4 ยักษ์ใหญ่โทรคมนาคมไทยอย่างเอไอเอส ดีแทค ทรูมูฟ และไอ-โมบาย ขณะเดียวกันก็ปฏิเสธที่จะเปิดเผยแผนการขยายร้าน"แบล็กเบอรี่ ไลฟ์สไตล์ สโตร์"ร้านสาธิตการทำงานและจำหน่ายอุปกรณ์แบล็กเบอรี่ซึ่งเริ่มเปิดสาขาแรกที่สยามพารากอนเมื่อ ก.ย. 54 ที่ผ่านมา โดยนิคระบุเพียงว่าการเปิดสำนักงานในไทยจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้แบล็กเบอรี่มีส่วนแบ่งตลาดมากขึ้นในประเทศไทย (ไม่เปิดเผยตัวเลข)
ผู้ที่จะนำทีมงานแบล็กเบอรี่ในประเทศไทยเป็นชาวฝรั่งเศสนามว่า "เบอนัวต์ นาลิน" ชาวฝรั่งเศสอดีตผู้บริหารโนเกียที่จะดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการประจำประเทศไทย หน้าที่หลักคือดูแลรับผิดชอบบในการสนับสนุนและประสานงานกับพันธมิตรและตัวแทนจำหน่าย รวมถึงสานต่อทีมงานในประเทศ เพื่อรองรับการเติบโตของแบรนด์แบล็กเบอรี่ในประเทศไทย โดยเบอนัวต์ (ไม่มีภาพ) นั้นเพิ่งย้ายมาประจำการกับริมเป็นระยะเวลา 6 เดือนก่อนเข้ารับตำแหน่ง
สำนักงานแบล็กเบอรี่ประเทศไทยตั้งอยู่ที่อาคารปาร์ค เวนเชอร์ อีโคเพล็กซ์ ปทุมวัน ปัจจุบันมีทีมงานหลักจำนวน 5 คนซึ่งกำลังขยายเพิ่มตามความต้องการ จุดนี้แบล็กเบอรี่ไม่เปิดเผยตัวเลขการลงทุนและงบการตลาดในประเทศไทยช่วงปีหน้า ระบุเพียงว่าบริษัทมีงบประมาณการตลาดโดยรวมมากกว่า 100 ล้านเหรียญสหรัฐ
"เชื่อว่าการให้ใบอนุญาต 3G อย่างเป็นทางการจะทำให้ตลาดนอกกรุงเทพฯมีโอกาสขยายตัวมากในปีหน้า จุดนี้ทำให้แบล็กเบอรี่ไม่หวังทำตลาดเฉพาะเครื่องไฮเอนด์เท่านั้น แต่ให้ความสำคัญกับตลาดเครื่องราคากลางด้วย ขณะเดียวกัน การเปิดตลาดของเครื่องระบบปฏิบัติการแบล็กเบอรี่ 10 ในปีหน้าเชื่อว่าจะทำให้ส่วนแบ่งตลาดแบล็กเบอรี่เติบโตยิ่งขึ้น ซึ่งเราหวังจะเป็นท็อป 3 ด้านมาร์เก็ตแชร์ตลาดสมาร์ทโฟนไทย"
การเปิดสำนักงานในไทยครั้งนี้สะท้อนว่าริมให้ความสนใจกับตลาดไทยไม่น้อย โดยริมยังย้ำว่าไทยจะเป็นหนึ่งในประเทศกลุ่มแรกที่ริมจะเปิดตัวอุปกรณ์แบล็กเบอรี่รุ่นใหม่ แม้ว่าการเปิดตัวจะไม่ได้หมายถึงการเริ่มวางจำหน่ายได้ทันทีก็ตาม
Related Link :
Blackberry
ที่มา: manager.co.th