Nick Computer Services

News & Public Relation => IT News => Topic started by: Nick on July 05, 2012, 07:33:07 PM

Title: จอง “Black Ops 2″ แถมฟรีแผนที่ยอดฮิต Nuketown 2025
Post by: Nick on July 05, 2012, 07:33:07 PM
(http://upic.me/i/1q/m1831.jpeg) (http://board.nickcs.com/go.php?http://upic.me/show/37137466)

แอคติวิชัน ประกาศข้อเสนอแจกฟรีแผนที่มัลติเพลย์เยอร์ยอดนิยมฉบับสร้างใหม่ของเกมยิงสงครามยุคอนาคต “Call of Duty: Black Ops 2″ พิเศษสำหรับเฉพาะผู้ที่สั่งจอง
     
ข่าวดีสำหรับเหล่าเกมเมอร์ที่ชื่นชอบสังหารข้าศึกในแผนที่มัลติเพลย์เยอร์ “Nuketown” จากเกมภาคแรก “Call of Duty: Black Ops” เมื่อล่าสุดทางบริษัทแอคติวิชัน ออกมาประกาศเตรียมนำแผนที่ดังกล่าวกลับมาทำใหม่ลงบนตัวเกมภาคต่อ “Call of Duty: Black Ops 2″ ที่กำลังจะออกปลายปีนี้ ซึ่งผู้ที่สั่งจองเกมล่วงหน้าทั้งเวอร์ชันพีซีและคอนโซล จะได้รับโบนัสโค้ดพิเศษเอาไว้สำหรับดาวน์โหลดแผนที่ “Nuketown 2025″ ที่เปลี่ยนรูปโฉมใหม่จากเดิมให้ดูล้ำสมัยขึ้นเพื่อเข้ากับบรรยากาศในเกมที่เป็นการทำสงครามในยุคอนาคต
     
ส่วนผู้เล่นที่ได้ทำการสั่งจองเกมแบล็คออปส์ 2 ไปแล้วก่อนหน้านี้ทุกคน ก็จะได้รับโค้ดดาวน์โหลดแผนที่ “Nuketown 2025″ เช่นเดียวกัน ซึ่งทางแอคติวิชันระบุว่าแผนที่มัลติเพลย์เยอร์ดังกล่าวจะไม่ได้ถูกบรรจุมาพร้อมในแผ่นแล้วบังคับให้ผู้เล่นต้องเสียตังค์เพิ่มเพื่อซื้อโค้ดปลดล็อคนำไปใช้เล่นในเกมเหมือนอย่างค่ายแคปคอม แต่มันจะเป็นคอนเทนต์ดาวน์โหลดเสริมแยกต่างหากที่เตรียมปล่อยออกมาในวันแรกที่ตัวเกมวางจำหน่าย
     
สำหรับแผนที่ “Nuketown” ต้นฉบับในเกมแบล็คออปส์ภาคแรกนั้นถือเป็นหนึ่งในแผนที่มัลติเพลย์เยอร์ที่มีขนาดเล็กสุดในประวัติศาสตร์ของซีรีส์คอลออฟดิวตี้ และมันยังเป็นแผนที่ยอดนิยมที่มีคนเล่นมากที่สุดในเกม ซึ่งแผนที่ดังกล่าวจะเป็นการจำลองย่านแถบชานเมืองของประเทศสหรัฐอเมริกาในช่วงปี 1960 ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อใช้ทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ โดยในฉากจะเต็มไปด้วยบ้านจัดสรร สวนพุ่มไม้ และมีรถบัสจอดทิ้งไว้อยู่ตรงกลางฉาก
     
เกม “Call of Duty: Black Ops 2″ มีกำหนดวางจำหน่ายลงบนเครื่องพีซี, เอ็กบ็อกซ์360 และเพลย์สเตชัน 3 ในวันที่ 13 พฤศจิกายนปี 2012 ตัวเกมจะเป็นภาคต่อของเกมภาคแรกที่ออกมาเมื่อปี 2010 ซึ่งแบล็คออปส์ถือเป็นภาคที่ขายดีที่สุดตลอดกาลของซีรีส์คอลออฟดิวตี้ โดยสามารถทำยอดขายได้มากกว่า 25 ล้านชุดทั่วโลก (นับเมื่อเดือนสิงหาคมปี 2011)

ที่มา Manager