http://www.youtube.com/watch?v=k5msk1EiVy4
(http://upic.me/i/4b/5550000083736021.jpeg) (http://board.nickcs.com/go.php?http://upic.me/show/36965308)
(http://upic.me/i/bc/5550000083736041.jpeg) (http://board.nickcs.com/go.php?http://upic.me/show/36965310)
(http://upic.me/i/lu/5550000083736051.jpeg) (http://board.nickcs.com/go.php?http://upic.me/show/36965312)
(http://upic.me/i/m4/5550000083736081.jpeg) (http://board.nickcs.com/go.php?http://upic.me/show/36965316)
(http://upic.me/i/kq/5550000083736091.jpeg) (http://board.nickcs.com/go.php?http://upic.me/show/36965320)
"ซาโตะ ทาเครุ" ผู้รับบทนำของหนัง Rurouni Kenshin และนักแสดงคนอื่น ๆ ในหนัง ได้ร่วมกันเดินพรมแดงเปิดตัวผลงานแนวซามูไร ที่ดัดแปลงมาจากการ์ตูนยอดฮิต ที่มีแฟน ๆ รอคอยชมกันมากมาย ในรอบการฉายปฐมทัศน์ เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. ที่ผ่านมา
ทาเคอิ เอมิ, อาโออิ ยู, เองูจิ โยสุเกะ, คิคคาว่า โคจิ, อาโอกิ มุเนะทากะ, ทานากะ ทาเคโตะ และ ซาโตะ ทาเครุ ได้ร่วมเดินพรมแดงเพื่อเปิดตัวภาพยนตร์เรื่อง Rurouni Kenshin หรือ "ซามูไรพเนจร" ที่ดัดแปลงมาจากการ์ตูนชื่อดังของ วาสึกิ โนบุฮิโระ เล่าเรื่องราวของยอดนักดาบในสมัยเปลี่ยนแปลงการปกครองของญี่ปุ่น เป็นงานที่ตีพิมพ์ในนิตยสาร Shounen Jump Weekly ระหว่างปี 1994 - 1999 ส่วนฉบับรวมเล่มก็ทำขายได้ถึง 50 ล้านเล่มแล้ว
โดยเรื่องราวในหนังจะครอบคลุมอยู่ในช่วงแรก ๆ ของการ์ตูน ซึ่งยอดนักดาบผู้เก่งกาจแห่งยุคเมจิ พยายามปลีกตัวใช้ชีวิตอย่างสงบ แต่ศัตรูเก่า ๆ และความวุ่นวายที่หลงเหลือมาจากยุคสมัยแห่งการต่อสู้ก็ยังคงตามกลับมาหลอกหลอนเขาอยู่เสมอ
นักแสดงหนุ่ม ซาโตะ ทาเครุ ผู้สวมบทบาทเป็น ฮิมูระ เคนชิน หรือ ฮิมูระ บัตโตไซ ตัวเอกของเรื่อง กล่าวว่าเขาเองก็ชื่นชอบตัวละครที่ตนต้องรับบทครั้งนี้มาก และพยายามจะแสดงเป็น "เคนชิน" ที่สมบูรณ์แบบที่สุด ส่วนดาราสาว ทาเคอิ เอมิ ที่แสดงเป็น "คาโอรุ" นักดาบสาวที่พยายามรักษาสำนักของบิดาเอาไว้ ก็บอกว่าเธอเองก็คิดว่า เคนชิน เท่ดี และส่วนตัวก็สนุกกับการแสดงเป็น คาโอรุ ผู้สดใส, บริสุทธิ์ และเถรตรง มากเช่นเดียวกัน
สำหรับผู้กำกับ เคอิชิ โอโทโมะ ที่เคยผ่านงานซีรีส์ซามูไรสุดดังอย่าง Ryomaden มาแล้ว ได้แสดงความมั่นใจว่าผู้ชมทุกคนจะเต็มอิ่มกับความคาดหวังอย่างแน่นอน โดย Rurouni Kenshin มีกำหนดเข้าฉายทั่วประเทศญี่ปุ่นในวันที่ 28 ส.ค. ที่จะถึงนี้
ที่มา: manager.co.th