Nick Computer Services

News & Public Relation => IT News => Topic started by: Nick on May 09, 2012, 01:50:12 PM

Title: เผย The Avengers ยังคงโกยรายได้อื้อ แม้จะถูกตัวหนังเวอร์ชั่นกล้องวีดีโอขัดขา
Post by: Nick on May 09, 2012, 01:50:12 PM
(http://www.pantip.com/tech/newscols/news/image/The_Avengers.jpg)

สำเนาภาพยนตร์ดังแห่งปี The Avengers ที่ถ่ายทำด้วยกล้องวีดีโอพกพาขนาดเล็ก ถูกมือดีปล่อยไฟล์เข้าสู่โลกออนไลน์ ก่อนหน้าที่ภาพยนตร์จะถึงกำหนดลงโรงได้เพียงหนึ่งสัปดาห์ จนสร้างความเป็นกังวลใจให้แก่ผู้บริหารดิสนีย์ถึงโอกาสทองที่จะทำรายได้อยู่ไม่น้อย เนื่องจาก มีรายงานว่าภาพยนตร์เวอร์ชั่นกล้องวีดีโอนั้น ถูกดาวน์โหลดไปมากกว่าครึ่งล้านครั้งแล้ว แต่อย่างไรก็ดี ล่าสุด รายได้จากบ็อกซ์ ออฟฟิศก็ได้พิสูจน์แล้วว่า ภาพยนตร์รวมซูเปอร์ฮีโร่ The Avengers ได้ทำลายสถิติเปิดตัวในหลายพื้นที่ แม้จะมีอุปสรรคอยู่บ้างก็ตาม

โดยหนัง The Avengers ได้โกยรายได้เกินกว่า 200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นตัวเลขเพียงพอที่จะทำให้มันกลายเป็นภาพยนตร์เปิดตัวที่ประสบความสำเร็จในประวัติศาสตร์ เฉือนเอาชนะพ่อมดน้อย Harry Potter ที่ถูกบันทึกสถิติรายรับ 170 ล้านเหรีญสหรัฐฯ ในสัปดาห์แรกที่ออกฉาย ซึ่งด้าน TorrentFreak เว็บไซต์ที่นำเสนอรายงานข่าวการแชร์ไฟล์บนอินเทอร์เน็ต วิเคราะห์ว่า จากการคำนวณทางสถิติก็พบว่าไม่น่าแปลกใจต่อการละเมิดลิขสิทธิ์ที่มีผลกระทบน้อยต่อยอดขายตั๋ว เนื่องจาก มีบันทึกว่ามีเพียง 20% เท่านั้น ที่ทำการดาวน์โหลดภาพยนตร์เวอร์ชั่นนี้ผ่านทางโปรแกรม BitTorrent หรือประมาณ 100,000 คนในสหรัฐฯ ซึ่งถ้าหนึ่งแสนคนดังกล่าวซื้อตั๋วภาพยนตร์แทนที่การดาวน์โหลด บ็อกซ์ ออฟฟิศ ก็จะมีรายได้เพิ่มขึ้นอีกเพียงแค่ 0.5% และในทำนองเดียวกัน ถ้าหากสันนิษฐานว่า ชาวอเมริกัน 100,000 คนดังกล่าว ไม่มีผู้ใดเดินทางไปซื้อตั๋วชมภาพยนตร์ที่โรง หลังจากที่ดื่มด่ำกับหนังเวอร์ชั่นกล้องวีดีโอแล้วก็ไม่น่าจะเป็นความจริง เพราะเชื่อแน่ว่า พวกเขาต้องอยากรับชมภาพยนตร์บนหน้าจอขนาดใหญ่มากกว่าเดิมเพื่ออรรถรสที่มากขึ้น และไม่มีปัญหากับเรื่องค่าตั๋ว ท้ายนี้ TorrentFreak สรุปว่า การที่มีภาพยนตร์หลุดออกมานั้นไม่ได้เป็นการทำลายอุตสาหกรรมภาพยนตร์อย่างมหาศาล และชี้ให้เห็นว่าเม็ดเงินกว่าล้านเหรียญสหรัฐฯ ในการป้องกันเทคโนโลยีกล้องวีดีโอเป็นค่าใช้จ่ายที่สิ้นเปลือง

Source : TechSpot

ที่มา: pantip.com