(http://www.pantip.com/tech/newscols/news/image/t-mobile.gif)
T-Mobile สหรัฐฯ ได้รายงานถึงผลกำไรสุทธิประจำไตรมาสที่ทำให้น่าผิดหวัง ยอมรับ ลูกค้ากว่า 7แสนคนหายเกลี้ยง ตั้งแต่ iPhone 4S เปิดตัวเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา
โดยหนึ่งในผู้ให้บริการเครือข่ายรายหลักๆของสหรัฐฯรายนี้ ยังคงเป็นเพียงผู้ให้บริการรายใหญ่รายเดียวในสหรัฐฯ ที่ยังไม่ให้การสนับสนุน iPhone เพราะเมื่อปลายปีที่ผ่านมา นอกจากผู้ให้บริการขาประจำอย่าง AT&T ที่ให้การสนับสนุน iPhone มาโดยตลอดแล้ว ยังมี Sprint ที่เพิ่มเข้ามาเป็นสมาชิกล่าสุดต่อจาก Verizon ที่เข้าร่วมก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ยังมี C-Spire ผู้ให้บริการเล็กๆระดับภูมิภาคร่วมให้บริการอีกด้วย โดยตัวแทนจาก T-Mobile กล่าว "ลูกค้าที่ทำสัญญากับเครือข่ายของเราลดลงอย่างต่อเนื่องเป็นลำดับ ซึ่งเป็นผลจากการเปิดตัว iPhone 4S พร้อมกันทั้ง 3 ผู้ให้บริการเครือข่ายเมื่อกลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมา" ซึ่งการขาดการให้การสนับสนุน iPhone ของ T-Mobile ทำให้ต้องสูญเสียลูกค้าในไตรมาสที่สี่ประจำปี 2011 ไปถึงกว่า 706,000 ราย โดยมีรายได้จากการให้บริการลดลงไป 2.7 เปอร์เซ็นต์จากปีก่อน มาอยู่ที่ 4.6พันล้านเหรียญสหรัฐฯในไตรมาสสุดท้ายของปี 2011 โดยยอดรวมของลูกค้าที่ T-Mobile ให้บริการอยู่นับสิ้นสุดปลายปี 2011 ที่ผ่านมา จะอยู่ที่ 33.2ล้านคน และจัดเป็นอันดับที่สี่ของผู้ให้บริการเครือข่ายรายใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ รองลงมาจาก Sprint ซึ่งเหตุผลหลักที่ทาง T-Mobile ยังไม่ให้การสนับสนุน iPhone เนื่องจากคลื่นความถี่ของเครือข่ายไม่เข้ากันกับเวอร์ชั่นปัจจุบันของ iPhone โดย iPhone สามารถใช้งานโทรบนเครือข่ายเน็ตเวิร์กของ T-Mobile ได้ แต่ยังไม่สามารถเชื่อมต่อเข้ากับคลื่นความถี่ความเร็วสูง 3G ที่มีความเป็นเอกเฉพาะของทางเครือข่ายได้นั่นเอง
Source : AppleInsider
ที่มา: pantip.com