(http://upic.me/i/av/ipad-2-tipb-01-602x451_resize1.jpg) (http://board.nickcs.com/go.php?http://upic.me/show/30560409)
(http://upic.me/i/qk/screen-shot-2011-11-21-at-8-21-15-pm_resize.jpg) (http://board.nickcs.com/go.php?http://upic.me/show/30560411)
จากรายงานของ DigiTimes ก่อนหน้านี้ว่า Apple กำลังสร้างเครื่องต้นแบบของ iPad 3 อยู่จำนวน 2 รุ่น โดยมีรหัสว่า J1 และ J2 Apple ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะผลิตรุ่นไหนออกมาจำหน่ายจริงกันแน่ ล่าสุดวันนี้ได้มีการค้นพบรหัส iPad 3 รุ่น J2 แทรกอยู่ในโค้ดที่ถูกซ่อนไว้ใน iOS 5 โดยเมื่อประมวลข่าวทั้งหมดที่่ DigiTimes ได้รายงานออกมาตลอดและส่วนใหญ่จะตรงกับความเป็นจริงเสมอ จึงค่อนข้างแน่นอนแล้วว่า iPad 3 ที่กำลังจะวางจำหน่ายต้นปี 2555 นี้จะมาพร้อมกับหน้าจอ Retina Display ความละเอียดสูงและหลอดภาพ LED แบบหลอดคู่
เนื่องงจาก Apple ต้องการให้ iPad รุ่นใหม่มีความบางลงกว่า iPad 2 ในขณะที่การเพิ่งความละเอียดหน้าจอเป็น Retina Display ที่ 2048 x 1536 พิกเซล ทำให้ต้องใช้หลอดภาพ LED ถึง 2 หลอดวางทางฝั่งซ้ายและขวาของตัวเครื่อง ทำให้ฝ่ายสายการผลิตต้องทำงานกันอย่างหนักเพื่อจะคิดค้นหาวิธีที่จะจัดการอุปกรณ์ทั้งหลายลงบนเครื่องที่บางลงให้ได้ บางผู้ผลิตหลอดภาพ LED ได้เสนอวิธีการผลิตใหม่ให้กับ Apple พิจารณาตัวอย่างเช่นสามารถผลิตหลอดภาพ LED สำหรับ Retina Display ได้ด้วยหลอดภาพเดียว แต่จะมีการเพิ่มชิปสั่งการ LED เข้าไปเป็น 2 ตัวแทน เป็นต้น ขณะนี้ Apple กำลังเปรียบเทียบระหว่าง Tablet ใหม่นี้จำนวน 2 รุ่นซึ่งมีรหัสว่า J1 และ J2 ความแตกต่างที่มากที่สุดระหว่าง iPad 3 กับ iPad 2 คือ ขนาด สเปค และเทคโนโลยีที่ใช้ใหม่ๆ แหล่งข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าดูเหมือนว่ารุ่น J2 นั้นจะเป็นรุ่นที่ถูกพัฒนาต่อยอดมาจาก J1 และถึงตอนนี้ว่า Apple จะยังไม่ตัดสินใจว่าจะผลิตรุ่นไหนออกมาก่อนกันแน่ ทั้งนี้ส่วนประกอบอื่นๆของ iPad 3 นั้นก็ได้รับสั่งเร่งดำเนินการผลิตออกมารอไว้อยู่แล้ว
ทั้งนี้ DigiTimes ได้ให้ข้อสังเกตไว้ว่า ที่สุดแล้วรหัส J1 อาจใช้แทน iPad 3 รุ่น WiFi และ J2 ใช้แทนรุ่น 3G เท่านั้นก็เป็นได้ ทั้งนี้มีเพียงรหัส J2 เท่านั้นที่มีการค้นพบในโค้ดที่ถูกซ่อนไว้ใน iOS 5 ยังไม่มี J1 แต่อย่างใด แต่อาจมีการปล่อยออกมาทีหลังในอัพเดท iOS 5 ตัวต่อไป
ข้อสังเกตอีกอย่างในโค้ดที่แสดงข้างบนนี้คือมีการใช้รหัส T39 แทนสินค้าอะไรสักอย่างหนึ่งที่ถูกเพิ่มเข้าสู่ iOS 5 ด้วย คงต้องคอยดูกันว่างานนี้ Apple จะมีเซอร์ไพร้ซ์อะไรเป็นของขวัญปีใหม่หรือเปล่า
ที่มา mactogether