(http://www.pantip.com/tech/newscols/news/image/cod_modernware3.jpg)
ทุบสถิติสินค้าด้านความบันเทิงทุกชนิดที่ผ่านมาอย่างราบคาบ สำหรับเกมแฟรนไชส์ภาคต่อสุดมันส์อย่าง 'Call of Duty' ที่ประกาศความยิ่งใหญ่ ด้วยการโกยรายได้เกินกว่า 400 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หลังการเปิดจำหน่ายได้เพียง 24 ชั่วโมง โดยสามารถขายไปได้ถึง 6.5 ล้านก๊อปปี้เกมในประเทศสหรัฐฯ และอังกฤษ ส่งผลให้ทุบสถิติเกมภาคต่อก่อนหน้า Call of Duty: Black Ops ที่เคยทำไว้เมื่อปีที่แล้วไปอย่างสบายๆ
โดยเกม Call of Duty: Black Ops สามารถคว้ารายได้ถึง 360 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในวันเปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว และเป็นอีกครั้งที่สถิติถูกบันทึกไว้ภายใต้เกมแบรนด์ 'Call of Duty' หลังจากที่เคยเกิดขึ้นครั้งหนึ่งแล้วเมื่อปี 2009 กับเกมภาคต่อ Modern Warfare 2 ที่สามารถขายได้ 4.7 ล้านแผ่น ภายใน 24 ชั่วโมงแรกของการเปิดจำหน่าย และคว้ารายได้ 310 ล้านเหรียญสหรัฐฯ "เราเชื่อว่าการเปิดตัวเกม Call of Duty: Modern Warfare 3 คือการเปิดตัวความบันเทิงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดและเราก็สามารถประสบความสำเร็จด้านยอดขายจากสองพื้นที่" Bobby Kotickt ซีอีโอแอคติวิชั่น บลิซซาร์ด กล่าว "ซึ่งนอกจากเกม Call of Duty แล้วเราก็ยังไม่เคยเห็นความบันเทิงแฟรนไชส์อื่นๆ สามารถทำได้เช่นนี้เลย" และในวันนี้ ยอดขายของเกมแฟรนไชส์ Call of Duty ก็เหนือชั้นกว่าภาพยนตร์บ็อกซ์ออฟฟิศทั่วโลกอย่าง 'Star Wars' และ 'Lord of the Rings' ที่ซึ่งเป็นสองความบันเทิงที่ประสบความสำเร็จตลอดกาล แต่อย่างไรก็ดี ถึงแม้ตัวเลขรายได้จะอยู่ในระดับที่น่าประทับใจ แต่ก็ดูเหมือนว่ามันจะไม่ยุติธรรมในการเปรียบเทียบวีดีโอเกมที่สร้างสรรค์จากบริษัทเอ็นเตอร์เทนเมนท์อื่นๆ ถ้าวัดจากระดับรายได้เพียงอย่างเดียว เพราะโดยปกติแล้ววีดีโอเกมจะตั้งราคาอยู่ที่ 50-60 เหรียญสหรัฐฯ ขณะที่ภาพยนตร์จะมีราคาอยู่ที่ 10-15 เหรียญสหรัฐฯ หรือหนังสือรวมกันหลายๆ เล่มยังมีราคาต่ำกว่า 20 เหรียญสหรัฐฯ
Source : TechSpot
ที่มา: pantip.com