(http://pics.manager.co.th/Images/554000015146901.JPEG)
นักแสดงสาวที่กำลังมาแรงในฮอลลีวูดอย่าง “เจสซิก้า แชสเทน” ถูกวางตัวให้รับบทเป็น “เจ้าหญิงไดอาน่า” ในหนัง Caught in Flight ที่มีแผนจะเปิดกล้องในปีหน้า เพื่อเล่าเรื่อง “รักแท้” ของ “เจ้าหญิงแห่งเวลส์” ที่ฝ่ายชายจะไม่ใช่ “เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์” หรือ “โดดี อัล-ฟาเ*ด” คู่รักโดยเปิดเผยของพระองค์แต่อย่างใด
ภาพยนตร์ที่อ้างว่าสร้างจากเรื่องจริง เป็นเสี้ยวหนึ่งในชีวิตของเจ้าหญิงแห่งเวลส์เรื่องนี้จะได้ โอลิเวอร์ เฮอร์ชบีเกิล มานั่งเก้าอี้ผู้กำกับ โดยคนทำหนังชาวเยอรมันรายนี้ เป็นเจ้าของผลงานสุดดัง Downfall และยังเคยเข้ามาทำหนังที่ฮออลีวูดกับงานเรื่อง The Invasion เมื่อปี 2007 ที่ได้ แดเนียล เคร็ก และนิโคล คิดแมน มาแสดงนำ แต่ไม่ค่อยประสบความสำเร็จนัก
โดย Caught in Flight มีกำหนดจะเปิดกล้องในเดือน มี.ค. 2012 พร้อมวางแผนไว้ว่า จะเดินทางไปถ่ายทำกันทั้งที่ ปากีสถาน, แองโกลา, แอฟริกาใต้ และทางตอนใต้ของกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส สถานที่ซึ่งเจ้าหญิงไดอาน่า สิ้นพระชนจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ โดยจะได้ดาราสาว เจสซิก้า แชสเทน ที่โด่งดังมาจากหนัง The Tree of Life รับบทนำ
รายงานข่าวระบุว่า Caught in Flight จะเล่าเรื่องความรักของเจ้าหญิงกับ ดร. แฮสเน็ต ข่าน แพทย์ผ่าตัดหัวใจชาวปากีสถาน หลังจากทั้งคู่ได้มีโอกาสทำความรู้จักกันในปี 1995 เมื่อ เจ้าหญิงไดอาน่า เสด็จเยี่ยมเพื่อนสนิทที่โรงพยาบาลโรยัลบรอมป์ตัน และจนกลายเป็นความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งและกินเวลาประมาณ 2 ปี ซึ่งฝ่ายชายเก็บเรื่องนี้เป็นความลับอยู่นาน จนกระทั่งถูกเปิดเผยออกมาในหนังสือพิมพ์ The Telegraph ฉบับปี 2008
ก่อนหน้านี้เคยมีเพื่อนสนิทของเจ้าหญิงกล่าวว่าพระองค์รู้สึกเหมือนเจอ “รักแท้” เมื่อได้พบกับนายแพทย์ชาวปากีสถานคนนี้ และดูเจ็บปวดอย่างเห็นได้ชัดเมื่อความสัมพันธ์สิ้นสุดลง ว่ากันว่าทั้งสองยังเคยคิดถึงเรื่องการแต่งงานอยู่เหมือนกัน แต่ฝ่ายชายคิดว่าเขาคงไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับวิถีชีวิตที่ต้องถูกจับตามองจากทุกฝ่ายได้
บทภาพยนตร์ Caught in Flight จะได้ สตีเว่น เจฟฟรีย์ มารับผิดชอบ โดยว่ากันว่าหนังจะกล่าวถึงด้านที่ไม่ค่อยจะสวยหรูเท่าไหร่นักของเจ้าหญิงแห่งเวลส์ โดยเฉพาะเนื้อเรื่องในส่วนที่จะเสนอภาพชอพระองค์ในฐานะ “คนที่เป็นฝ่ายเจ็บปวดทนทุกข์ และพยายามตามตื้อฝ่ายชายซึ่งเป็นคนขอจบความสัมพันธ์”
(http://pics.manager.co.th/Images/554000015146902.JPEG)
ที่มา: manager.co.th