(http://www.pantip.com/tech/newscols/news/image/sony_psvita.jpg)
หลังจากที่มีข่าวลือเรื่องกำหนดวันวางตลาดของเครื่องเล่นเกมพกพาผู้สืบทอดตระกูล PSP ในช่วงต้นของสัปดาห์ ล่าสุดมีข่าวใหม่ที่ทำให้แฟนๆ PSP ต้องถึงกับอกหักดังเป๊าะ เมื่อมีรายงานออกมาว่า โซนี่มีแผนที่จะเริ่มต้นจำหน่ายเครื่องเล่นเกมพกพา PS Vita ในตลาดสหรัฐฯและยุโรปปีหน้านี้
โดยถึงแม้ว่าเครื่องเล่นเกมพกพา PS Vita จะได้รับการอนุมัติให้ผ่าน FCC ในสหรัฐฯแล้ว และเมื่อตอนต้นสัปดาห์เพิ่งมีข่าวรั่วไหลออกมาชี้ให้เห็นการเปิดตัวในยุโรปในเดือนตุลาคมนี้ แต่ถึงกระนั้น โซนี่กลับมีแผนเริ่มจำหน่าย PS Vita ในสหรัฐฯและยุโรปภายในปีหน้า ซึ่งพลาดช่วงเทศกาลวันหยุดประจำปี 2011 นี้ แต่ที่พิเศษที่สุด เฉพาะญี่ปุ่นเท่านั้น จะได้เห็นตัวผลิตภัณฑ์ออกมาก่อนใครในปลายเดือนธันวาคมนี้ ตามมาด้วยการเปิดตัวในตลาดใหญ่สหรัฐฯและแถบยุโรปในต้นปีหน้า โดยมี คาซุโอะ ฮิราอิ ผู้รักษาการแทนประธานบริษัท Sony Corporation และ โฮวาร์ด สตริงเกอร์ ซีอีโอโซนี่ทางฝั่งสหรัฐฯ ทำการประกาศรายงานนี้ใน Tokyo today ตามการรายงานข่าวของสำนักข่าวบลูมเบิร์ก ซึ่งก่อนหน้านี้ โซนี่ได้กล่าวถึงแผนการเปิดตัวทั่วโลกของ PS Vita ว่าจะมีกำหนดก่อนสิ้นปี 2011 นี้ แต่ไม่ได้ลงลึกในรายละเอียด และเป็นความเชื่อโดยทั่วไปว่า โซนี่จะมีการออกอุปกรณ์ออกสู่ตลาดต่างประเทศก่อนสิ้นปี ดังนั้น ผู้ที่สนใจจะเป็นเจ้าของ PS Vita ภายในปีนี้ คงจะต้องบินข้ามน้ำข้ามทะเลไปซื้อที่ญี่ปุ่น โดยโซนี่สัญญาว่า PS Vita จะให้ประสบการณ์ในการเล่นที่อยู่ในระดับเดียวกันกับ PS3 ซึ่งจะมาพร้อมพลังชิปสี่แกน ARM Cortex-A9 และชิปกราฟิก PowerVR SGX543MP4 ที่อ้างเร็วกว่า PSP ในรุ่นก่อนๆถึง 4 เท่าเลยทีเดียว โดยจะมีหน้าจอ OLED ขนาด 5 นิ้ว รองรับการแสดงผล 950 x 544 พิกเซล ประกอบไปด้วย ไมโครอะนาล็อกสติ๊ก 2 อัน เพื่อจำลองประสบการณ์แบบ Dual Shock กล้องหน้า-กล้องหลัง และมัลติทัชแพด 2 นิ้วที่ด้านหลังของเครื่อง ในแง่ของการเชื่อมต่อ ผู้ใช้สามารถคาดหวังกับการใช้งานแบบ 3G ที่เพิ่มขึ้นมาจาก Wi-Fi และ Bluetooth 2.1+EDR โดยในรุ่น Wi-Fi จะมีสนนราคาอยู่ที่ 25,000 เยนในญี่ปุ่น หรือ 250เหรียญสหรัฐฯในสหรัฐฯ และ 250เหรียญยูโรในยุโรป ในขณะที่รุ่น 3G/Wi-Fi จะมีราคาอยู่ที่ 3หมื่นเยนในญี่ปุ่น 300เหรียญสหรัฐฯและยูโร ในตลาดสหรัฐฯและยุโรปตามลำดับ ซึ่งวันปล่อยที่แท้จริงยังไม่มีรายงานในตอนนี้
Source : TechSpot
ที่มา: pantip.com