(http://pics.manager.co.th/Images/554000009254302.JPEG)
นักวิจัยชาวจีนเปิดเผยกับสำนักข่าวบีบีซี (BBC) พบว่ารัฐบาลจีนลงมือปิดเว็บไซต์มากกว่า 1.3 ล้านไซต์ในช่วงปี 2009-2010 ที่ผ่านมา ทำให้เว็บไซต์สัญชาติจีนประจำปี 2010 มีจำนวนน้อยลงกว่าปีที่ผ่านมาถึง 41%
ผลการวิจัยนี้มาจากการศึกษาของสถาบันวิทยาศาสตร์สังคมแห่งประเทศจีนหรือ Chinese Academy of Social Sciences (ASS) โดย Liu Ruisheng นักวิจัยแผ่นดินใหญ่วิเคราะห์ว่า ตัวเลขการปิดเว็บไซต์ครั้งมโหฬารในช่วงปีที่ผ่านมา แสดงถึงความเข้มข้นในกระบวนการควบคุมดูแลการใช้งานอินเทอร์เน็ตของรัฐบาลจีนที่ยังไม่มีทีท่าจะลดลง
จำนวนการปิดเว็บไซต์หลักล้านของรัฐบาลจีนเกิดขึ้นหลังการประกาศนโยบายปราบปรามเว็บไซต์ลามกอนาจารซึ่งจีนระบุว่าจะดำเนินการจริงจังตั้งแต่ปี 2009 โดยสถาบัน ASS ยืนยันว่าการปิดเว็บไซต์ของจีนนั้นทำไปเพื่อรักษาความเรียบร้อยและศิลธรรมของคนในชาติ และประชาชนยังมีสิทธิเสรีภาพในการแสดงความเห็นออนไลน์"ระดับสูง"เช่นเดิม
นักวิจัยจีนยังชี้ว่า ปริมาณเว็บเพจในจีนนั้นมีจำนวนเพิ่มขึ้นสวนทางกับจำนวนเว็บไซต์ที่ลดลง โดยปี 2010 จำนวนเว็บเพจของเว็บไซต์จีนนั้นเพิ่มจำนวนเป็น 60,000 ล้านเพจ คิดเป็นสัดส่วนเพิ่มขึ้น 79% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
แม้จีนจะยกตัวอย่างว่าเว็บไซต์ส่วนใหญ่ที่ถูกปิดนั้นเป็นเว็บไซต์อนาจาร แต่ข้อเท็จจริงว่ารัฐบาลจีนกำลังปิดกั้นบริการของต่างชาติก็เป็นสิ่งที่เห็นได้ชัดเจน โดยในหลายบริการที่ถูกรัฐบาลจีนปิดไปนั้นมีบริการเครือข่ายสังคมอย่างเฟซบุ๊ก (Facebook) ยูทูบ (Youtube) และทวิตเตอร์ (Twitter) รวมอยู่ด้วย ซึ่งล้วนแสดงว่าจีนกำลังปิดกั้นเสรีภาพของประชาชนตามที่หลายผ่ายแสดงความเป็นห่วง
Company Related Link :
Chinese Academy of Social Sciences
ที่มา: manager.co.th