Nick Computer Services

Computer & Services => Hardware => Topic started by: Nick on July 14, 2011, 02:09:24 PM

Title: สัมผัสแรก Sony NEX-C3 ก่อนวางจำหน่ายในไทย
Post by: Nick on July 14, 2011, 02:09:24 PM
(http://manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=554000009217801)

      โซนี่ ประเทศไทย ส่งกล้อง NEX-C3 ลงสนามกล้องไร้กระจกสะท้อนภาพ (Mirrorless) ทดแทนรุ่น NEX-3 เพิ่มฟังก์ชันปรับแต่งรูปและอินเตอร์เฟสแบบใหม่ ใช้งานง่าย พร้อมเปิดขาย 2 รุ่น ได้แก่ NEX-C3K ที่มาพร้อมเลนส์ระยะ 18-55 มิลลิเมตร ในราคา 21,990 บาท และ NEX-C3D ที่มาพร้อมเลนส์ระยะ 18-55 กับ 16 f2.8 มิลลิเมตร ในราคา 24,990 บาท พร้อมเปิดตัวเลนส์ตระกูล E-Mount มาโครรุ่นใหม่ที่ระยะ 30 มิลลิเมตร F3.5 และแฟลชตัวใหม่สำหรับกล้องตระกูล NEX ในรุ่น HVL-F20S ที่มาพร้อมความสามารถในการ Bounce แฟลชขึ้นเพดานได้เหมือนแฟลชตัวใหญ่ (แฟลชจะพร้อมวางจำหน่ายในช่วงปลายปี)
       
       ซึ่งสำหรับวันนี้ทางทีมงานผู้จัดการไซเบอร์ได้มีโอกาสเข้ารับการทดสอบกล้อง Sony NEX-C3 ก็เลยถือโอกาสรีวิวและโชว์ประสิทธิภาพของกล้องตระกูลนี้ให้พ่อแม่พี่น้องได้รับชมกันครับ
       
       
(http://manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=554000009217802)

       
(http://manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=554000009217803)

       
       โดยในด้านรูปลักษณ์ของตัวกล้องจะเห็นว่ามีการปรับเปลี่นขนาดให้จับถนัดมือกว่ารุ่น NEX-3 พร้อมลดน้ำหนักกล้องลงเหลือ 225 กรัมจากรุ่น NEX-3 ที่ 239 กรัม อีกทั้งในส่วนของวัสดุที่ใช้ผลิตจะมีการอัปเกรดในส่วนด้านบนให้มีความแข็งแรงมากกว่ารุ่นก่อนหน้า ส่วนบอดี้ยังเป็น Polycarbonate เฉกเช่นเดียวกับ NEX-3 แต่มีการวางลายและการออกแบบใหม่ ทำให้จับกระชับมือมากกว่ารุ่นก่อน อีกทั้งในเรื่องการจัดสรรพลังงานในตัวที่ทางโซนี่เครมว่าจะทำให้แบตเตอรีอึดขึ้นอีก 20%
       
       
(http://manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=554000009217804)

       
(http://manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=554000009217805)

       
(http://manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=554000009217806)

       
       ในส่วนของจอภาพจะมีขนาด 3 นิ้วแบบ XtraFine TruBlack LCD ที่สามารถปรับขึ้น-ลงได้ และในส่วนด้านล่างของตัวกล้องจะเห็นว่าตำแหน่งของช่องใส่การ์ดหน่วยความจำที่รองรับตั้งแต่ SD SDHC SDXC MS-PRO Duo จะถูกแยกออกมาให้ผู้ใช้สามารถถอดเปลี่ยนได้ง่ายขึ้น
       
       
(http://manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=554000009217807)

       
       มาที่ด้านของเซนเซอร์รับภาพจะยังคงเป็นตัวเดียวกับ NEX-3 และ NEX-5 กล่าวคือเซนเซอร์ที่ใช้จะเป็น Exmor APS HD CMOS ขนาด 23.4x15.6 มิลลิเมตร หรือเทียบเท่ากับกล้อง DSLR รุ่นกลางๆ อีกทั้งเมาท์เลนส์จะยังคงเป็นตระกูล E-Mount ที่สามารถใส่เลนส์ของกล้องตระกูล Alpha (A mount) ได้โดยผ่าน Adapter LA-EA1
       
       
(http://manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=554000009217808)

       
(http://manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=554000009217809)

       
       อีกทั้งในวันนี้ทางโซนี่ยังได้นำเลนส์ E-Mount รุ่นใหม่อย่าง Macro 30 mm f3.5 ที่จะเริ่มวางขายเร็วๆ นี้มาให้ทีมงานได้ทดสอบกันอีกด้วย โดยตัวเลนส์ดังกล่าวจะถูกออกแบบมาให้ใช้กับ E-Mount บนกล้องตระกูล NEX ทุกรุ่น โดยค่ารูรับแสงของเลนส์ต่ำสุดอยู่ที่ f3.5 สูงสุดที่ f22 และโฟกัสใกล้สุดอยู่ที่ 3.74
       
       ในส่วนของชิ้นเลนส์จะประกอบด้วย aspherical 3 ชิ้น และ ED Glass 1 ชิ้น และอัตราขยายเป็นแบบ 1:1
       
       Specifications and Special Features
       
       ในส่วนของสเปกตัวกล้องในส่วนของความละเอียดจะมีการอัปเกรดความละเอียดจาก 14.2 ล้านพิกเซลเป็น 16.2 ล้านพิกเซล (4,912x3,264 พิกเซล) ในส่วนของวิดีโอจะถ่ายในรูปแบบ MP4 HD 720p (1,280x720 พิกเซล) และความละเอียด 640x480 พิกเซลที่ความเร็วเฟรม 29.97 เฟรมต่อวินาที
       
       สำหรับ ISO จะมีให้เลือกตั้งแต่ 200-12,800 และในส่วนของหน่วยประมวลผลภาพจะยังคงใช้ BIONZ เหมือนรุ่นก่อน และสุดท้ายในส่วนการถ่ายภาพต่อเนื่องจะมีความเร็วที่ 2.5 เฟรมต่อวินาที ส่วนโหมด Speed Priority จะอยู่ที่ 5.5 เฟรมต่อวินาที
       
       
(http://manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=554000009217810)

       
       นอกจากนั้นส่วนที่เปลี่ยนแปลงสำคัญอีกหนึ่งส่วนสำหรับกล้อง NEX-C3 ก็คือซอฟท์แวร์ภายในที่ถูกปรับเปลี่ยนใหม่ เพื่อให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น
       
       
(http://manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=554000009217811)

       
       โดยการเปลี่ยนแปลงในส่วนแรกจะอยู่ที่การเพิ่มระบบ Peaking Level (ใน NEX-3 และ 5 รุ่นก่อนหน้าสามารถใช้ระบบดังกล่าวได้ด้วยการอัปเกรดเฟริมแวร์ รุ่นที่ 4 จากเว็บโซนี่) ที่ช่วยในการโฟกัสภาพสำหรับบรรดาเลนส์มือหมุน โดยระบบสามารถเข้าไปเปิดได้ในหน้าเมนู Setup
       
       ซึ่งการทำงานของ Peaking Level จะใช้จุดสี (เช่นในภาพตัวอย่างด้านบนจะเป็นจุดสีแดงหลายจุด) เป็นตัวบอกว่าตอนนี้ผู้ใช้หมุนเลนส์เข้าโฟกัสตำแหน่งใดบ้าง ทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องคอยเข้าโหมด MF Assistant ให้เสียเวลา
       
       นอกจากนั้นก็ยังมีโหมด Picture Effect ที่เพิ่มเข้ามาใน Shoot Mode ที่ผู้ใช้สามารถเลือกเอ็ฟเฟ็กภาพแปลกตาต่างๆ ได้ไม่ว่าจะเป็น Toy ซึ่งเป็นการใช้เอ็ฟเฟ็กแบบโลโม่ Patial Color (R/G/B/Y) ที่เป็นโหมดดูดสีให้เหลือเฉพาะสีที่เราต้องการนอกนั้นจะเป็นสีขาว-ดำ หรือ Retro ที่เป็นเอ็ฟเฟ็กแบบวินเทจย้อนยุค
       
       
(http://manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=554000009217812)

       
       และสุดท้ายสิ่งที่มีการเปลี่ยนแปลงเฉพาะ NEX-C3 คงอยู่ที่ฟังก์ชัน Photo Creativity ที่อยู่ในโหมด iAuto โดยฟังก์ชันดังกล่าวจะทำให้ผู้ใช้สามารถสร้างสรรค์ภาพถ่ายตามความต้องการได้ โดยการเพิ่มเอ็ฟเฟ็กภาพลงไปได้หลายเลเยอร์ เช่น ผู้ใช้ต้องการปรับโทนสีแบบอุ่น แต่อยากใช้ Soft Skin ด้วย ผู้ใช้ก็สามารถเพิ่มเอ็ฟเฟ็กทั้งหมดลงไปได้ด้วยการกดเพิ่มเอ็ฟเฟ็กไปเรื่อยๆ จนพอใจ
       
       ทดสอบประสิทธิภาพ
       
       


(http://manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=554000009217813)
ภาพแรกขอทดสอบด้วยเลนส์พื้นฐาน 18-55 มม. โดยภาพนี้ใช้โหมด iAuto กดถ่ายๆ

       
       


(http://manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=554000009217814)       
จากนั้นทีมงานลองเปลี่ยนไปใช้เลนส์ 16f2.8 ใส่ Adapter Fisheye ครอบอีกครั้งพร้อมปรับ Shoot Mode เป็น Program และชดเชยแสง +1 step แต่ภาพนี้โฟกัสพลาดเล็กน้อย เนื่องจากแสงสว่างค่อนข้างมาก และจอ NEX-C3 ก็ไม่สามารถสู้แสงได้ดีนัก

       
       


(http://manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=554000009217815)       
และสุดท้ายทีมงานขอจบภาพน้องคนนี้ด้วยเลนส์ตระกูลอัลฟ่า 50mm f1.4 ผ่าน Adapter LA-EA1 โดยตั้งค่า f1.4 ปรับทุกฟังก์ชันเป็น Manual พร้อมเปิด Peaking Level ที่ High เพื่อช่วยโฟกัสและใช้มือหมุน

       
       
(http://manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=554000009217816)

       
หลังจากนั้นทีมงานขอทดสอบ Peaking Level ต่อในที่แสงสว่างน้อยด้วยเลนส์ 50mm f1.4 ตัวเดิม เพราะต้องการทดสอบ Noise ที่เกิดจากการดัน ISO ภาพนี้จึงตั้ง ISO ไปแตะ 800 และใช้ระบบมือหมุนหาโฟกัสผ่าน Peaking Level

       
       
(http://manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=554000009217817)

       
(http://manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=554000009217818)

       
(http://manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=554000009217819)

       
(http://manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=554000009217820)

       
คราวนี้ลองทดสอบเอ็ฟเฟ็กดูดสี Patial Color พบว่าทำได้ดี เพียงแต่เรื่องการตัดสีจะได้เฉพาะสีที่ตรงกับแม่สีจริงๆ ที่เลือกเท่านั้น ถ้าเกิดแม่สีเหล่านั้นเกิดมีความผิดเพี้ยนไปเล็กน้อย ระบบจะไม่ทำการตัดสีให้ ซึ่งวิธีแก้คือให้ตั้ง White Balance ใหม่ ก็อาจช่วยได้

       
       
(http://manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=554000009217821)

       
(http://manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=554000009217822)

       
มาที่การทดสอบสุดท้ายกับการเล่นเอ็ฟเฟ็กภาพอย่าง Toy และ Pop ที่ยอมรับว่าบางเอ็ฟเฟ็กทำได้ค่อนข้างดี เหมาะและช่วยลดเวลาแก่พวกชอบแต่งภาพมาก

       
       ทดสอบ SEL30M35
       
       
(http://manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=554000009217823)

       
(http://manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=554000009217824)

       
       SEL30M35 คือรหัสเลนส์ Macro ระยะ 30 f3.5 ที่ได้กล่าวเปิดตัวไปข้างต้นแล้ว ซึ่งจากการทดสอบใช้งานคร่าวๆ ในเวลาค่อนข้างจำกัด พบว่าคุณภาพอยู่ในเกณฑ์ดี ถึงแม้ F-stop ที่ให้มาอาจไม่ต่ำมาก แต่ด้วยอัตราส่วนขยายแบบ 1:1 และราคาที่ทางโซนี่ตั้งไว้ไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท แถมเป็น E-Mount เชื่อมต่อกับกล้องตระกูล NEX ได้แล้วก็ถือว่าน่าสนใจทีเดียว
       
       สรุป
       
       สำหรับกล้องไร้กระจกสะท้อนภาพ NEX-C3 ตัวใหม่ที่ทางโซนี่ต้องการคลอดออกมาแทนที่ NEX-3 รุ่นก่อนหน้า อย่างแรกต้องยอมรับว่าการที่ทำให้ NEX-C3 มีความเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างการเพิ่มฟังก์ชัน Photo Creativity รวมถึงการออกแบบที่เน้นแก้ข้อพกพร่องของ NEX-3 เป็นหลักก็ถือเป็นเรื่องที่ดี และทำให้ C3 มีความเป็นตัวตนชัดเจนมากกว่าตอนเปิดตัว NEX-5 และ NEX-3 อีกทั้งในเรื่องของราคาที่ตั้งไว้ไม่สูงจนเกินเอื้อมเมื่อเทียบกับประสิทธิภาพที่พูดได้เต็มปากว่า "เป็น NEX-5 ลดสเปกถ่ายวิดีโอ Full HD เท่านั้น"
       
       แต่ทั้งนี้สำหรับกล้อง NEX-C3 ก็อาจมีข้อติเล็กน้อยอยู่บ้าง เช่น เรื่องจอ LCD ที่อาจยังสู้แสงอาทิตย์ได้ไม่ดี และอีกส่วนที่สำคัญคือเรื่องของการสั่งงานผ่าน Click Wheel ที่ถึงแม้ใน NEX-C3 จะมีการปรับปรุงซอฟท์แวร์ให้ใช้งานง่ายขึ้น แต่สำหรับผู้ใช้ที่เป็นมือใหม่จริงๆ ก็ยังคงรู้สึกว่าใช้งานยากและต้องอาศัยเวลาศึกษา ทำความเคยชินเหมือนรุ่นก่อนหน้าอยู่ดี
       
       Company Relate Link :
       Sony

ที่มา: manager.co.th