Nick Computer Services

Computer & Services => Hardware => Topic started by: Nick on June 17, 2011, 01:57:37 PM

Title: แรกสัมผัส ASUS Eee Pad Transformer คอมพิวเตอร์แท็บเล็ตขุมพลังแอนดรอยด์ 3.1
Post by: Nick on June 17, 2011, 01:57:37 PM
(http://manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=554000007826401)

       กลายเป็นคอมพิวเตอร์แท็บเล็ตที่มียอดสั่งจองสูงในต่างประเทศ และเป็นแท็บเล็ตที่มีเหล่าสาวกหุ่นกระป๋องเขียวให้ความสนใจอย่างมากกับ ASUS Eee Pad Transformer (เอซุส อี-แพด ทรานฟอร์มเมอร์) มาวันนี้ทีมงานผู้จัดการไซเบอร์ก็ได้สัมผัสและยลโฉมตัวเป็นๆ ของคอมพิวเตอร์แท็บเล็ต ASUS Eee Pad Transformer ก่อนทางเอซุสจะวางขายจริงในช่วงปลายเดือนมิถุนายน
       
       
(http://manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=554000007826402)

       
(http://manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=554000007826403)

       
       สำหรับคอมพิวเตอร์แท็บเล็ต ASUS Eee Pad Transformer จะมาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 3.1 (Honeycomb) ในส่วนของหน่วยประมวลผลจะผนวกชิป NVIDIA Tegra 2 Dual-Core พร้อมหน้าจอขนาด 10.1 นิ้ว และที่สำคัญสำหรับคอมพิวเตอร์แท็บเล็ต ASUS Eee Pad Transformer จะมาพร้อม Docking Station ที่มีคีย์บอร์ด QWERTY แบบจริงๆ เสมือนเน็ทบุ๊กและ Touchpad ที่ถูกออกแบบมาสำหรับ Android 3.1 ทำให้การใช้ Touchpad บน ASUS Eee Pad Transformer จะเปรียบเสมิอนการใช้เมาส์บนพีซี
       
       
(http://manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=554000007826404)

       
(http://manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=554000007826405)
       

       นอกจากนั้นระหว่างตัว Pad และ Docking Station ยังสามารถถอดแยกออกจากกันได้ทันทีโดยไม่ต้องปิด-เปิดเครื่องใหม่ อีกทั้งจากการสอบถามกับทีมงานเอซุสเกี่ยวกับเรื่องแบตเตอรี่ภายใน พบว่า ASUS Eee Pad Transformer จะมาพร้อมแบตเตอรี 2 ก้อน ซึ่งถูกติดตั้งอยู่ภายใน Docking Station และภายใน Pad ทำให้การใช้งานต่อการชาร์จหนึ่งครั้งสามารถพุ่งสูงถึงประมาณ 9.5 - 16ชั่วโมง
       
       
(http://manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=554000007826406)

       
(http://manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=554000007826407)

       
       ในส่วนของพอร์ตเชื่อมต่อรอบๆ ตัวเครื่องพบว่าทางเอซุสให้พอร์ตมาค่อนข้างครบครันไม่ว่าจะเป็นพอร์ต USB ที่ให้มาถึง 2 พอร์ต และสามารถใช้เชื่อมต่อกับแฟลชไดร์ฟหรืออุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ ที่ถูกออกแบบมาสำหรับ Android 3.1 รวมถึงช่องอ่านการ์ดหน่วยความจำ พอร์ต HDMI ที่สามารถส่งวิดีโอความละเอียด 1080p ออกไปสู่จอทีวี และที่สำคัญช่องใส่การ์ดหน่วยความจำแบบ Micro-SD ที่จะถูกเปิดใช้กับ Android 3.1 แล้ว
       
       
(http://manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=554000007826408)

       
       มาที่ส่วนของกล้องถ่ายภาพจะมาพร้อมความละเอียดสูงสุดที่ 5MP สำหรับกล้องด้านหลัง ส่วนกล้องด้านหน้าจะมีความละเอียดอยู่ที่ 1.2MP ในส่วนของน้ำหนักตัวเครื่องรวมกับ Docking Station จะอยู่ที่ประมาณ 1 กิโลกรัมกว่าๆ ซึ่งถ้าเทียบกับแท็บเล็ตแบรนด์อื่นแล้วถือว่าค่อนข้างหนักพอสมควร
       
       
(http://manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=554000007826409)

       
       มาดูที่ตัวโอเอสนอกจาก ASUS Eee Pad Transformer จะเลือกใช้ Android 3.1 แล้ว ทางเอซุสยังเลือกพัฒนา UI บางส่วนขึ้นมาเองในชื่อ ASUS Launcher ที่จะมาพร้อม Widget แสดงภูมิอากาศ E-Mail และปฏิทินขนาดย่อม นอกจากนั้นซอฟท์แวร์ในตัวแท็บเล็ตที่ให้มานอกจากแอปฯ พื้นฐานแล้วยังมาพร้อมแอปฯ ที่ทางเอซุสเป็นผู้พัฒนาขึ้นมาเองในชื่อ My Cloud ที่จะผนวกการใช้งานร่วมกับ Web Storage (คล้ายบริการ iCloud ของแอปเปิล) ในการสำรองข้อมูลและคุณสมบัติพิเศษอย่างระบบ Remote Control ที่สามารถโคลนหน้าจอจากคอมพิวเตอร์หรือเครื่องแมคอินทอชให้มาปรากฏบน Pad ผ่านการเชื่อมต่อ WiFi
       
       โดยในส่วนของการทดสอบ ASUS Eee Pad Transformer แบบคร่าวๆ พบว่า สัมผัสแรกที่ได้ลองใช้งานค่อนข้างลื่นไหล ตรงส่วนนี้อาจเป็นเพราะระบบปฏิบัติการ Android 3.1 ที่มีการปรับปรุงเรื่องประสิทธิภาพให้ดียิ่งขึ้น และในส่วน Touchpad ที่ถือว่าเป็นจุดขายสำคัญจากการทดลองใช้งานพบว่า การใช้งานสามารถทำได้แบบเดียวกับ Touchpad บนโน้ตบุ๊ก ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของ Pointer ที่มาพร้อมกับ Android 3.1 และการใช้งานที่ค่อนข้างลื่นไหลอย่างมาก
       
       ในส่วนของคีย์บอร์ดพบว่านอกจากแป้นพิมพ์แล้วยังมีส่วนของปุ่ม Shortcut สำหรับเรียกหน้าเมนู Android ขึ้นมาแบบเดียวกับการสัมผัสบนหน้าจอ ส่วนการถอดแยกระหว่างฐาน Docking กับตัว Pad ก็สามารถทำได้ตลอดเวลาที่ต้องการ โดยเมื่อเกิดการถอดแยกเกิดขึ้นในระหว่างที่ผู้ใช้กำลังใช้งานคีย์บอร์ดอยู่ระบบจะทำการตัดเข้าสู่ Virtual Keyboard ที่มาพร้อมแป้นภาษาไทยอย่างอัตโนมัติ
       
       สำหรับการทดสอบเล่นเกมเนื่องจากหน่วยประมวลผลที่ให้มากับ ASUS Eee Pad Transformer เป็น NVIDIA Tegra 2 ทำให้การเล่นเกมสามมิติทำได้ค่อนข้างลื่นไหล อีกทั้งในส่วนของหน้าจอ IPS และการประกอบตัวเครื่องที่ค่อนข้างแข็งแรง เอซุสคุยว่าหน้าจอสามารถทนการขีดข่วนของมีดได้ นอกจากนั้นอีกหนึ่งส่วนที่ทีมงานได้เข้าไปทดสอบใช้งานและเกิดความประทับใจก็คือเรื่องของ Google Maps ที่เป็นการผนวกระหว่าง GPS + E-compass ในระบบทำให้สามารถใช้นำและยังสามารถดึงระบบนำทางจากสมาร์ทโฟน garminasus ให้มาปรากฏบน Eee Pad ได้อีกด้วย (แต่ยังไม่ได้ทดสอบความแม่นยำ เพราะสถานที่และเวลาไม่อำนวย)
       
       สุดท้ายสำหรับข้อสังเกตหลังจากการทดลองใช้งานเป็นเวลาร่วมชั่วโมงพบว่า ตัวเครื่องเมื่อประกบส่วน Pad และคีย์บอร์ด Docking เข้าด้วยกันจะมีน้ำหนักค่อนข้างมากพอสมควร (เทียบกับแท็บเล็ตแบรนด์อื่น)
       
       **สำหรับเครื่องที่ทีมงานได้ทดสอบใช้งานจะเป็นรุ่น WiFi ส่วน 3G คาดว่าจะนำมาขายในภายหลัง**
       
       สำหรับ ASUS Eee Pad Transformer จะเปิดให้จองเพียง 100 เครื่องเท่านั้น ตั้งแต่วันที่ 27 -30 มิถุนายน 2554 ระหว่างเวลา 9.00 - 17.00 น. ด้วยราคา 14,900 บาท สำหรับ Eee Pad Transformer เพียงอย่างเดียว และราคา 17,900 บาทสำหรับ Eee Pad Transformer + แป้นคีย์บอร์ด Docking Station และสำหรับ 50 คนแรกที่ซื้อ Eee Pad Transformer เฉพาะ Pad จะได้รับส่วนลด 2,000 บาท จากราคาปกติ 14,900 บาท เหลือเเพียง 12,900 บาท โดยราคาทั้งหมดยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม สนใจสั่งจองโทร 086-0828928 และ 083-3077075
       
       Company Related Links :
       ASUS

ที่มา: manager.co.th