Nick Computer Services
News & Public Relation => IT News => Topic started by: IT on June 16, 2009, 02:06:37 AM
-
(http://www.thairath.co.th/media/content/2009/06/12/300/12342.jpg)
เผยไม่คิดแชร์ส่วนแบ่งตลาดเน็ตบุ๊ค เชื่อสินค้าตรงใจลูกค้า เล็งเจาะกลุ่มนร.นศ. ชูประโยชน์ความสะดวกและความรู้ ยกเป็นนวัตกรรมใหม่ของพจนานุกรมอิเล็กทรอนิกส์...
นายกิตติ ธนลาภไพบูลย์กุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูเนียน เซ้นซ์ เทคโนโลยี จำกัด กล่าวว่า จากความเป็นผู้นำด้านพจนานุกรมอิเล็กทรอนิกส์กว่า 20 ปีของบริษัทฯ ด้วยส่วนแบ่งทางการตลาดกว่า 70% ล่าสุด บริษัทฯ ได้เปิดตัว “Talking-Dict Netbook” ที่รวม 3 เทคโนโลยี ได้แก่ เน็ตบุ๊ค Talking-Dict และ Wi-Fi ไว้ด้วยกัน ถือเป็นนวัตกรรมใหม่ของวงการพจนานุกรมอิเล็กทรอนิกส์ ที่พัฒนาความสามารถของ Talking-Dict ให้เทียบเท่ากับเทคโนโลยีของเน็ตบุ๊ค ด้วยประสิทธิภาพของ Intel ATOM 1.6GHz ที่มีหน่วยความจำขนาด 160 GB พร้อมรองรับระบบปฏิบัติการ Linux และ Windows XP ส่วนคำศัพท์ภายในเครื่อง เป็นศัพท์จากพจนานุกรมชั้นนำของ Oxford 5 เล่ม และพจนานุกรมที่ได้รับความนิยมระดับโลก โดยผ่านการตรวจสอบคำแปลจากผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านที่มีความแม่นยำสูง
กก.ผจก. บ.ยูเนียน เซ้นซ์ฯ กล่าวต่อว่า นอกจากประโยชน์และความรู้ Talking-Dict Netbook ยังมีเทคโนโลยี Wi-Fi ทำให้ลูกค้าสามารถดาวน์โหลดภาพ เสียง พร้อมใช้เว็บแคมและทำวีดีโอลิงค์ได้ทันที นอกจากนี้ รองรับการเล่นไฟล์ MP3 , MPEG4 และ VDO เพื่อตอบสนองความต้องการกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย อาทิ นักเรียน นักศึกษา และวัยเริ่มทำงาน ด้วยความสะดวกในการใช้งานและพกพา ประกอบกับราคาและความคุ้มค่าที่มากกว่า Talking-Dict หรือ Netbook ทั่วไป โดยบริษัทฯ ได้จัดผลิตภัณฑ์ดังกล่าวอยู่ในกลุ่มพรีเมี่ยม ด้วยการประชาสัมพันธ์ แผนการตลาดเชิงกลุ่ม เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อลูกค้าและรักษายอดขายเดิม
นายกิตติ กล่าวอีกว่า ในปี 2551 ที่ผ่านมา บริษัทฯ มีรายได้ประมาณ 600 ล้านบาท โดยผลิตภัณฑ์ Talking-Dict มีราคาเริ่มต้นที่ 1,000-14,990 บาท ส่วน Talking-Dict Netbook มีราคา 16,990 บาท คาดว่า บริษัทฯ จะสามารถจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดังกล่าวได้ประมาณ 1,500 เครื่องต่อเดือน นอกจากนี้ บริษัทฯ วางแผนเพิ่มภาษาต่างๆ อีก 13 ภาษาในอนาคต เพื่อรองรับการใช้งานของลูกค้า จากเดิมที่มีเพียง 3 ภาษา คือ ไทย จีน และอังกฤษ ส่วนการออกผลิตภัณฑ์รุ่นล่าสุดนั้น บริษัทฯ ไม่ได้ต้องการชิงส่วนแบ่งทางการตลาดของผลิตภัณฑ์ประเภทเน็ตบุ๊ค เนื่องจาก บริษัทฯ ต้องการเน้นด้านการศึกษาสำหรับนักเรียนนักศึกษาเป็นหลัก
ที่มา: thairath.co.th