(http://pics.manager.co.th/Images/554000004553101.JPEG)
Paul Otellini
ใครอ่านข่าวนี้อาจจะอยากเป็นซีอีโออินเทลบ้าง เพราะสำนักข่าวเอพีโชว์ตัวเลขรายรับประจำปี 2010 ที่ผ่านมาของซีอีโออินเทล "Paul Otellini" พบว่าซีอีโออินเทลได้รับเงินรายได้ทั้งสิ้น 15.5 ล้านเหรียญ (ราว 465 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 8% จากปี 2009 เพราะอินเทลสามารถทำยอดขายได้เพิ่มขึ้น
อินเทลนั้นได้ชื่อว่าเป็นผู้ผลิตไมโครโปรเซสเซอร์หรือมันสมองของเครื่องคอมพิวเตอร์รายใหญ่อันดับ 1 ของโลก แม้ว่าที่ผ่านมา เศรษฐกิจโลกจะทำให้ผู้บริโภคและกลุ่มบริษัทองค์กรต้องรัดเข็มขัด แต่เมื่อเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว ประกอบกับกระแสความต้องการอุปกรณ์พกพา เหล่านี้ล้วนทำให้อินเทลสามารถทำยอดจำหน่ายได้ดีกว่าปี 2009
เอพียกข้อมูลซึ่งอินเทลยื่นชี้แจงต่อคณะกรรมการกำกับและดูแลตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯหรือ Securities and Exchange Commission ว่าซีอีโออินเทลได้รับเงินโบนัสประจำปีสูงถึง 6.8 ล้านเหรียญ (ราว 204 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 29% จาก 5.3 ล้านเหรียญในปี 2009 โดยซีอีโออินเทลซึ่งควบตำแหน่งประธานบริษัทด้วยนั้น ได้รับเงินเดือนคงที่ 1 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 30 ล้านบาทต่อเดือน) เช่นเดียวกับปี 2009 และ 2008
นอกจากนี้ ซีอีโออินเทลยังได้รับโบนัสพิเศษอีก 30,400 เหรียญ (ราว 912,000 บาท) ซึ่งโบนัสพิเศษนี้เป็นสิ่งที่อินเทลตอบแทนพนักงานที่เกี่ยวข้องทุกคน ที่มีส่วนผลักดันให้ปี 2010 เป็นปีแรกที่บริษัทมียอดขายเกิน 4 หมื่นล้านเหรียญ
ยังไม่รวมหุ้นพิเศษ เงินปันผล และโบนัสพิเศษยิบย่อยซึ่งซีอีโออินเทลได้รับอีกหลายล้านเหรียญสหรัฐฯ จุดนี้เอพีพบว่ามีอัตราเพิ่มขึ้นเกิน 20% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ทั้งหมดนี้เป็นเพราะอินเทลสามารถทำกำไรสุทธิทั้งปีสูงถึง 1.146 หมื่นล้านเหรียญในปี 2010 เพิ่มขึ้นก้าวกระโดดจากปี 2009 ซึ่งอินเทลประกาศว่าทำได้ 4.37 พันล้านเหรียญเท่านั้น
ในแง่ของยอดขาย ปี 2010 อินเทลระบุว่าทำได้ 4.362 หมื่นล้านเหรียญ เพิ่มขึ้น 24% จาก 3.513 หมื่นล้านเหรียญในปี 2009 เป็นผลให้มูลค่าหุ้นของอินเทลทะยานขึ้นเฉลี่ย 3% เมื่อเทียบจากปี 2009
ใครทำงานได้เงินเดือนเรือนพันเรือนหมื่นอย่าได้น้อยใจ ตราบใดที่ยังมีความสุขกับงานที่ทำถือว่าดีที่สุด :-)
Company Related Link :
Intel
ที่มา: manager.co.th