(http://pics.manager.co.th/Images/554000000665801.JPEG)
อินเทล (Intel) คุยฟุ้ง ปี 2010 ที่ผ่านมาถือเป็นปีที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ ยกความดีให้ธุรกิจเทคโนโลยีศูนย์กลางข้อมูลหรือดาต้าเซ็นเตอร์ ซึ่งมีการขยายตัวสูงมากเพราะกระแสความนิยมในคลาวด์คอมพิวติ้ง เบ็ดเสร็จกำไรสุทธิทั้งปีอยู่ที่ 11,700 ล้านเหรียญสหรัฐ บนรายรับรวม 43,600 ล้านเหรียญ คิดเป็นสัดส่วนเพิ่มขึ้นจากปี 2009 ถึง 167%
พอล โอเทลลินี (Paul Otellini) ซีอีโออินเทลให้ความเห็นระหว่างการประกาศรายงานผลประกอบการเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาว่าแม้ปี 2010 จะเป็นปีที่ดีที่สุดของอินเทลแต่เชื่อว่าปี 2011 จะเป็นปีที่อินเทลทำได้ดีกว่ายิ่งขึ้นไปอีก
เฉพาะไตรมาส 4 ปี 2010 อินเทลสามารถทำกำไรสุทธิราว 3,400 ล้านเหรียญ คิดเป็นสัดส่วนเพิ่มขึ้น 48% จากไตรมาสเดียวกันในปีที่ผ่านมา ตัวเลขสวยงามเหล่านี้ส่งให้มูลค่าหุ้นอินเทลเพิ่มขึ้นมากกว่า 2% ทันทีหลังการประกาศ
ผู้บริหารอินเทลยอมรับว่า แรงผลักดันสำคัญของอินเทลนั้นมาจากตลาดเกิดใหม่กำลังขยายตัวอย่างจีน จากกลุ่มคอนซูเมอร์ และกระแสคลาวด์คอมพิวติ้งที่ทำให้องค์กรหันมาเพิ่มประสิทธิภาพของระบบดาต้าเซ็นเตอร์เพื่อจัดการงานบริการและซอฟต์แวร์ออนไลน์
สำหรับไตรมาสปัจจุบัน อินเทลเชื่อว่าจะสามารถทำรายรับรวมได้ 11,500 ล้านเหรียญ บนงบประมาณวิจัยและพัฒนา (R&D) และการควบรวมกิจการประจำปี 2011 มากกว่า 14,000 ล้านเหรียญ
หนึ่งในสินค้าที่คาดว่าจะทำเงินเป็นกอบเป็นกำให้อินเทลในปีนี้คือชิป Sandy Bridge ซึ่งมีกำหนดติดตั้งในอุปกรณ์มากกว่า 500 ชิ้น ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่สมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์พกพา และคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ เชื่อกันว่า Sandy Bridge จะสามารถทำเงินให้อินเทลได้มากกว่า 1 ใน 3 ของรายรับอินเทลในปี 2011 เบื้องต้นคาดว่าจะสามารถสร้างรายได้ให้แก่อุตสาหกรรมพีซีมากกว่า 125,000 เหรียญสหรัฐ
Company Related Link:
Intel
ที่มา: manager.co.th