(http://pics.manager.co.th/Images/553000017419901.JPEG)
เป็นข่าวดีสำหรับพวกฮาร์ดคอร์พีซีทั้งหลาย หลังจาก Futuremark ปล่อยให้แฟนๆ 3DMark รอเวอร์ชั่นที่มีชื่อว่า "11" มานาน เพราะล่าสุดทาง Futuremark ประกาศวันวางจำหน่าย 3DMark 11 แล้วในวันที่ 30 พฤศจิกายน หรือสิ้นเดือนนี้
โดยทาง Futuremark ได้กำหนดชุดวางขายและราคาของ 3DMark 11 ไว้ 3 รุ่น เช่นเดียวกับตัวก่อนหน้า (3DMark Vantage) คือ Basic Edition (สามารถดาวน์ได้ฟรี), Advanced Edition และ Professional Edition ซึ่งในส่วนของรายละเอียดสามารถดูได้ที่ตารางด้านล่าง
(http://manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=553000017419902)
จากตารางจะเห็นว่า 3DMark 11 แต่ละรุ่นจะมีราคาที่แตกต่างกันตามความสามารถ โดยถ้าผู้ใช้ต้องการแค่นำไปทดสอบกราฟิกการ์ดเพียงอย่างเดียว ไม่ได้ต้องการนำผลคะแนนที่วัดได้ไปใช้เพื่อทำบทความต่างๆ ก็สามารถดาวน์โหลดได้ฟรี ในรุ่น Basic Edition ส่วน Advanced Edition ซึ่งมีความสามารถในการปรับความละเอียดหน้าจอรวมถึงสามารถทดสอบประสิทธิภาพกราฟิกการ์ดในโหมด Extreme Preset ได้จะมีราคาอยู่ที่ 19.95$ US (ประมาณ 600 บาท) และสุดท้ายสำหรับรุ่น Professional Edition ที่มาพร้อมการรองรับทุกฟังก์ชันของโปรแกรมจะมีราคาอยู่ที่ 995$ US (ประมาณ 29,900 บาท) โดยในวันนี้ทาง Futuremark ได้เปิดให้สั่งจองแล้วที่เว็บของตน หรือ >คลิกที่นี่< (http://board.nickcs.com/go.php?http://preorder.3dmark.com/benchmarks/)
http://www.youtube.com/watch?v=-eY_En9VcwM
สำหรับ 3DMark 11 เป็นโปรแกรมทดสอบกราฟิกการ์ดและสามารถคำนวณผลคะแนนเป็นตัวเลขได้ ซึ่งสำหรับในเวอร์ชั่น 11 จะรองรับชุดคำสั่ง DirectX 11 เต็มรูปแบบ โดยสเปกคอมพิวเตอร์ที่ตัวโปรแกรมรองรับ ในส่วนของระบบปฏิบัติการณ์จะต้องใช้ Windows Vista และ 7 เท่านั้น สำหรับซีพียูที่โปรแกรมรองรับจะต้องเป็นซีพียู Dual Core มีความเร็วมากกว่า 1.8GHz ขึ้นไป และโปรแกรมจะใช้เนื้อที่ในการติดตั้ง 1.5GB
สุดท้าย 3DMark 11 จำเป็นต้องใช้กราฟิกการ์ดที่รองรับชุดคำสั่ง DirectX 11 ในการรันโปรแกรม เพราะฉะนั้นผู้ใช้ที่มีกราฟิกการ์ดที่รองรับชุดคำสั่งตั้งแต่ DirectX 9 - 10 มีความเป็นไปได้สูงที่จะไม่สามารถรันโปรแกรมนี้ได้
ที่มา: manager.co.th