(http://pics.manager.co.th/Images/553000017157701.JPEG)
หลังจากถูกอดีตคนรักกล่าวหาในคดีทำร้ายร่างกายมาพักใหญ่ ๆ พระเอกดัง "เมล กิ๊บสัน" ได้อธิบายเรื่องราวจากมุมมองของเขา ว่าเหตุการณ์ทั้งหมดเกิดจากตนเองเพียงต้องการปกป้องลูกน้อย ที่อาจได้รับอันตรายจากผู้เป็นแม่ ซึ่งกำลังโกรธจนขาดสติ เขายังยืนยังว่าไม่ได้ซ้อม หรือทุบตีเธอแต่อย่างใด เพียงแต่ตบด้วยฝ่ามือเท่านั้น
เมล กิ๊บสัน พระเอกรุ่นใหญ่วัย 54 ปี ให้การทางเอกสารต่อศาล ในคดีความกับอดีตคู่รัก อ๊อคซาน่า กรีออริเอว่า ถึงกรณีทำร้ายร่างกายที่กลายเป็นข่าวฉาวโฉ่ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาว่า "ผมตบ อ๊อคซาน่า หนึ่งครั้งด้วยมือเปล่า เป็นการกระทำเพื่อพยายามคืนสติให้กับเธอ มันไม่ใช่การตบที่รุนแรงอะไร ผมเพียงพยายามช็อค เพื่อให้เธอหยุดกรีดร้อง และหยุดเขย่าตัวของ ลูเชีย ไป ๆ มา ๆ แบบนั้น"
ซึ่ง ลูเชีย ก็คือลูกสาวของทั้งคู่ที่มีวัยไม่ถึง 1 ขวบเท่านั้น กิ๊บสัน อ้างว่าอดีตคนรักของเขามีอาการโรคประสาทฮิสทีเรีย ซึ่งในเหตุการณ์วันนั้นระหว่างที่ทั้งคู่มีปากเสียงกัน เธอได้อุ้มลูกขึ้นมาจากเตียงของเด็กทารก เป็นเหตุการณ์ที่ กิ๊บสัน อ้างว่าเขาเริ่มวิตกกังวลว่าลูกสาวอาจไม่ได้รับความปลอดภัย "เธอเริ่มเหวี่ยงลูกไปมาด้วยแขนของตัวเอง เพื่อกันไม่ให้ผมเข้าไปคว้าตัวลูก"
นอกเหนือจากเหตุการณ์ครั้งนี้แล้ว กิ๊บสัน ยืนกรานว่าเขาไม่เคยทำร้ายร่างกายอดีตคนรัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งไม่เคยชกเธอด้วยกำปั้น "ผมไม่เคยชกเธอที่ใบหน้า หรือที่ไหนทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นในเหตุการณ์ครั้งนั้น หรือเมื่อไหร่ก็ตาม"
อดีตคู่รักที่เริ่มคบหากันเมื่อ 2 ปีก่อน กำลังอยู่ระหว่างการต่อสู้เรื่องสิทธิ์การเลี้ยงดูบุตร และการจ่ายค่าเลี้ยงดู โดยเหตุการณ์ที่กลายเป็นประเด็นสำคัญในชั้นศาล เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 ม.ค. 2010 ฝ่ายหญิงอ้างว่านักแสดงชื่อดังชาวสหรัฐฯ ทำร้ายร่างกายเธอจนฟันร่วง นอกจากนั้นยังด่าทอด้วยถ้อยคำรุนแรงว่า "หยุดร้องโวยวายได้แล้ว ลูกจะกลายเป็นปัญหาอ่อนเอานะ !!! สมองเสียหรือไงนังโง่"
โดย กิ๊บสัน กล่าวถึงพฤติกรรมของตนเองในวันนั้นว่า "ผมยอมรับว่าไม่สามารถจัดการกับสถานการณ์ในตอนนั้นให้ดีอย่างที่ควรจะเป็น แต่การกระทำต่าง ๆ ล้วนเกิดจากความวิตกกังวล ที่อ๊อคซาน่าอุ้มและเหวี่ยงลูกไป ๆ มาๆ" ซึ่งเว็บไซต์ TMZ อ้างรายงานการตรวรจร่างกายโดยกุมารแพทย์ ในวันต่อมาของเหตุการณ์วุ่นวาย ว่าไม่มีหลักฐานที่แสดงว่าหนูน้อย ลูเชีย ได้รับบาดเจ็บใด ๆ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ที่มา: manager.co.th