(http://pics.manager.co.th/Images/553000016820001.JPEG)
บรรยากาศร้าน T-Mobile ในสหรัฐฯที่เริ่มวางจำหน่ายสมาร์ทโฟน Windows Phone 7
(http://pics.manager.co.th/Images/553000016820002.JPEG)
ลูกค้าคนแรกที่ซื้อสมาร์ทโฟน Windows Phone 7 จากร้าน T-Mobile ในนิวยอร์ก
(http://pics.manager.co.th/Images/553000016820003.JPEG)
ดาราสาวและหนุ่มจาก MTV มาร่วมประชาสัมพันธ์สมาร์ทโฟน Windows Phone 7
(http://pics.manager.co.th/Images/553000016820004.JPEG)
บรรกาศคึกครื้น
(http://pics.manager.co.th/Images/553000016820005.JPEG)
HTC HD7 สมาร์ทโฟน Windows Phone 7 ตัวแรกที่คาดว่าจะเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยเร็ววันนี้
ลุ้นกันตัวโก่งสำหรับการเปิดจำหน่ายโทรศัพท์มือถือระบบปฏิบัติการล่าสุดสำหรับสมาร์ทโฟนของไมโครซอฟท์ Windows Phone 7 เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายนตามเวลาในสหรัฐฯ ล่าสุดมีรายงานจากบริษัทวิจัยตลาดอเมริกันว่า ยอดจำหน่ายวันแรกในร้าน AT&T และ T-Mobile นั้นทะลุหลัก 40,000 เครื่องในวันเดียว ท่ามกลางงบประมาณโฆษณาที่ไมโครซอฟท์ทุ่มทุนไปมากกว่า 100 ล้านเหรียญสหรัฐ
ตัวเลข 40,000 เครื่องนี้มาจากบริษัท Cote Collaborative ซึ่งทำการติดตามยอดจำหน่ายสมาร์ทโฟนวินโดวส์เซเวนเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายนที่ผ่านมา พร้อมระบุว่าตัวเลขดังกล่าวไม่ได้รวมเครื่องที่มีข่าวว่าไมโครซอฟท์แจกฟรีให้พนักงานทั้ง 89,000 คน
เช่นเคย ไมโครซอฟท์ไม่ออกมาตอบรับหรือปฏิเสธผลการสำรวจที่เกิดขึ้น โดยจากการสอบถามประชาสัมพันธ์ T-Mobile ก็ได้รับการปฏิเสธในการให้ข้อมูลยอดจำหน่ายเช่นกัน แต่ยืนยันว่าสมาร์ทโฟนวินโดวส์โฟนเซเวนได้รับความสนใจจากลูกค้าทีโมบายล์อย่างมาก
อย่างไรก็ตาม ตัวเลข 40,000 เครื่องนั้นดูเหมือนจะน้อยเกินไปเมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการคู่แข่งอย่าง Android ซึ่งกูเกิลเคยออกมาระบุว่า สามารถจำหน่ายสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์จำนวนมากกว่า 200,000 เครื่องในวันเดียว ขณะที่แอปเปิลเคยประกาศชัยว่า iPhone นั้นมียอดจำหน่าย 270,000 ในวันแรกของการวางจำหน่าย
จุดนี้ Michael Cote นักวิเคราะห์ของบริษัทวิจัย Cote Collaborative ชี้ว่าไมโครซอฟท์เลือกวันประเดิมจำหน่ายสมาร์ทโฟนผิดพลาด เนื่องจากวันศุกร์-เสาร์คือวันเปิดวางจำหน่ายที่ดีที่สุด ไม่ใช่วันจันทร์
ขณะที่นักวิเคราะห์ของ Nielsen นาม Roger Entner ตั้งข้อสังเกตว่าความนิยมในวันแรกของการวางจำหน่ายไม่ใช่สิ่งตัดสินความสำเร็จของผลิตภัณฑ์ โดยยกตัวอย่างสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์รุ่นแรกที่วางจำหน่ายในร้านทีโมบายล์ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จมากนัก ตรงกันข้ามกับวันนี้ที่แอนดรอยด์มาแรงอย่างฉุดไม่อยู่
นักวิเคราะห์นีลสันเชื่อว่า ช่วงเวลาตัดสินอนาคตสมาร์ทโฟนวินโดวส์เซเวนคือช่วงเทศกาลจับจ่ายปลายปี โดยคาดว่าไมโครซอฟท์อาจลงมาเล่นสงครามราคาเพื่อช่วงชิงส่วนแบ่งการตลาด
มูลค่าหุ้นไมโครซอฟท์ดีดตัวรับกระแสสินค้าใหม่โดยเพิ่มขึ้น 21 เซนต์เป็น 27.02 เมื่อวันอังคารตามเวลาสหรัฐฯ
Company Relatd Link :
Microsoft
ที่มา: manager.co.th