(http://uppic.nickcs.com/upload/big/2014/06/15/539d2ae45c2f4.jpeg) (http://board.nickcs.com/go.php?http://uppic.nickcs.com/img-539d2ae45c99c.html)
เจน เอส เร่งหาแบรนด์หูฟังเสริมทัพ หลังแยกทางเซนไฮเซอร์ จับ Yurbuds ลุยตลาดหูฟังสำหรับกลุ่มคนชอบออกกำลังกาย พร้อมเตรียมหาแบรนด์ไฮเอนด์มาทำตลาดเพิ่มเติม มองตลาดรวมอุปกรณ์เสริมปีนี้ทรงตัว ส่วนรายได้ตั้งเป้า 75 ล้านบาทเท่าปีที่ผ่านมา
นายสรศักดิ์ วงศ์ชินศรีกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจนเนอเรชั่น เอส จำกัด ตัวแทนจำหน่ายหูฟัง Yurbuds กล่าวว่า พฤติกรรมผู้บริโภคที่หันมานิยมออกกำลังกายมากขึ้น ประกอบกับตลาดหูฟังถือเป็นตลาดที่กำลังเติบโต ไลฟ์สไตล์ผู้ใช้งานเริ่มเปลี่ยนตามการเติบโตของสมาร์ทโฟนที่ยิ่งจำหน่ายได้มากขึ้นก็จะทำให้ตลาดหูฟังเติบโตตามไปด้วย รวมไปถึงการใช้งานรถสาธารณะเพิ่มขึ้น อัตราการใช้งานหูฟังก็จะเพิ่มมากขึ้น
“การนำเข้าหูฟัง Yurbuds เข้ามาจำหน่ายถือเป็นก้าวใหม่ของเจน เอส ที่จะเพิ่มไลน์ผลิตภัณฑ์เฉพาะกลุ่มให้มากขึ้น จากเดิมที่ขายเฉพาะแบรนด์เดียว และในอนาคตก็จะมีการเปิดตัวแบรนด์หูฟังชั้นนำเพิ่มเข้ามาอีกภายในสิ้นปีนี้”
ขณะที่มองว่าตลาดรวมอุปกรณ์เสริมในช่วงต้นปีที่ผ่านมาถือว่าค่อนข้างเงียบ ทำให้โดยรวมทั้งปีอาจจะไม่เติบโตจากปีที่ผ่านมา แต่ก็ยังมีโอกาสอยู่ในช่วงไตรมาสที่ 3 และ 4 ที่จะมีการเปิดตัวไอโฟนรุ่นใหม่ รวมไปถึงสถานการณ์บ้านเมืองที่ดีขึ้น
“ปีที่ผ่านมารายได้ของเจน เอสอยู่ที่ราว 75 ล้านบาท ส่วนในปีนี้แต่เดิมคาดว่าจะสามารถสร้างรายได้ทะลุ 100 ล้านบาท แต่จากการประเมินในช่วงต้นปีรายได้รวมในปีนี้อาจจะเท่ากับปีที่ผ่านมาเท่านั้น เพราะล่าสุดเพิ่งยกเลิกสัญญากับทางเซนไฮเซอร์ไป ทำให้ต้องมีการหาแบรนด์หูฟังรายอื่นเข้ามาทำตลาดแทน”
ทั้งนี้ รายได้หลักของเจน เอส ในช่วงที่ผ่านมาจะมาจาก 3 แบรนด์หลัก คือ หูฟัง เซนไฮเซอร์ (Sennheiser) ปากกาสไตลัสอะโดนิท (Adonit) และอุปกรณ์เสริมมือถือ กอส (Gosh!) ขณะที่สัดส่วนการจำหน่ายจะอยู่ในกรุงเทพฯ เป็นหลักราว 70% และต่างจังหวัด 30% หลังจากมีการขยายตลาดไปยังช่องทางต่างจังหวัดมากขึ้นในช่วงปีที่ผ่านมา
สำหรับหูฟัง Yurbuds ที่เจเนอเรชัน เอส นำเข้ามาจำหน่ายจะมีด้วยกันทั้งหมด 4 รุ่น ระดับราคาตั้งแต่ 800-4,500 บาท คือ รุ่น Inspire wireless ที่เป็นหูฟังแบบบลูทูธ รุ่น Explore Talk ที่มาพร้อมไมโครโฟนสำหรับการพูดคุย รุ่น Inspire Pro และ Inspire Talk สำหรับผู้หญิงด้วยการปรับขนาดให้เล็กลง สามาถใช้งานได้กับสมาร์ทโฟนทุกรุ่น สิ่งสำคัญคือรุ่นที่มีราคาแพงกว่า 2,000 บาท จะได้รับการรับประกันตลอดอายุการใช้งาน
ส่วนช่องทางการจำหน่ายจะเน้นไปที่ห้างสรรพสินค้า ไอสตูดิโอ โมเดิร์นเทรด ซึ่งแต่เดิมเจเนอเรชัน เอส มีฐานช่องทางจำหน่ายที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว จึงไม่เน้นขยายเพิ่ม แต่จะให้ความสำคัญต่อการทำตลาดเพิ่มเติมมากขึ้น ด้วยงบการตลาด 10% จากยอดขาย
Company Relate Link :
Generation S
ที่มา: manager.co.th