Nick Computer Services

Job & Healthy & Poem & Share Clip => Healthy Tips => Topic started by: Nick on January 14, 2014, 04:36:07 PM

Title: Only lady Syndrome มดลูกอักเสบ โรคร้ายของสาวๆ
Post by: Nick on January 14, 2014, 04:36:07 PM
พูดถึงโรคร้ายหลายโรคกันไปแล้ว คราวนี้เรามาดูโรคที่เป็นได้เฉพาะสาวๆ เท่านั้นกันดีกว่า แถมยังเป็นโรคที่สาวๆ ส่วนใหญ่อาจจะเสี่ยงเป็นโรคนี้กันได้อีกด้วย ไม่ว่าคุณจะมีแฟนหรือไม่ มีเพศสัมพันธ์มากน้อย หรือแม้แต่ไม่เคยมีเลย คุณก็เสี่ยงที่จะเป็นโรคนี้ได้ น่าสนใจแล้วใช่ไหมคะว่าโรคนี้ทำไมสาวๆ ทุกคนถึงเสี่ยงที่จะเป็นกันได้


มดลูกอับเสบ คืออะไร?


มดลูกอักเสบ เป็นโรคที่สาวๆ หลายคนน่าจะเคยได้ยินกัน โรคนี้มักเกิดขึ้นในผู้หญิงอายุระหว่าง 15-45 ปี เกิดจากการอักเสบติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน หรือการอักเสบแบบเฉียบพลันในบริเวณมดลูก และอาจแพร่กระจายไปสู่บริเวณช่องท้องได้ โรคนี้อาจมีภาวะแทรกซ้อนได้ถ้าไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกวิธี ซึ่งจะขึ้นอยู่กับเป็นการติดเชื้อในบริเวณใด ถ้าติดเชื้อและเกิดการอักเสบบริเวณเยื่อบุโพรงมดลูก ก็จะเรียกว่า เยื่อบุโพรงมดลูกอักเสบ ถ้าติดเชื้อและเกิดการอักเสบที่ปีกมดลูก จะเรียกว่าปีกมดลูกอักเสบ (Salpingitis)

ส่วนสาเหตุการเกิดโรคนี้ นอกจากการติดเชื้อระหว่างทำแท้งและติดเชื้อหลังการคลอดบุตรแล้ว สาเหตุหลักที่สาวๆ อย่างเราๆ ท่านๆ ที่ไม่เคยผ่านทั้งการมีบุตรและทำแท้งมานั้น สาเหตุแรกเลย การติดเชื้อจากเพศสัมพันธ์ โดยส่วนใหญ่พบว่าเป็นเชื้อหนองใน และเชื้อหนองในเทียม ซึ่งส่วนใหญ่พบว่าเกิดจากการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายที่ชอบเที่ยว และมีคู่นอนหลายคน

แต่ไม่แค่นั้นค่ะ เพราะสาวๆ ที่มีภาวะขาดสมดุลของสิ่งแวดล้อมในช่องคลอด โดยเฉพาะผู้ที่สวนล้างช่องคลอดเป็นประจำ เนื่องจากการสวนล้างช่องคลอดทำให้การสมดุลของเชื้อโรคตัวที่ควรจะมีในช่องคลอด และบริเวณมดลูกเสียไป และง่ายต่อการติดเชื้อโรคมากยิ่งขึ้น เพราะฉะนั้นสาวๆ ที่รักสะอาดจนเกินงาม ก็ต้องขอฝากไว้ด้วยนะจ๊ะว่าทุกอย่างต้องมีความพอดี เพียงแค่ล้างแค่ภายนอกด้วยน้ำเปล่าให้สะอาดเท่านั้นก็เพียงพอแล้วนะคะ

ช่างสังเกต...ช่วยห่างไกลโรค


มาดูถึงการสังเกตร่างกายกันบ้างดีกว่า เพราะร่างกายเรานั้นมีกลไกในการรักษาตัวเองไม่พอ ยังมีการแสดงสัญญาณให้เราๆ ท่านๆ ได้รับรู้อีกด้วย หากมีอาการดังนี้ ให้สงสัยไว้ก่อนเลยค่ะว่าเราอาจเสี่ยงกับการเป็นโรคมดลูกอักเสบเข้าแล้ว


1. มีไข้เกิน 38 องศา หนาวสั่น ซึ่งอาการไข้จะเกิดขึ้นพร้อม หรือใกล้เคียงกับอาการปวดท้องน้อย

2. ปวดท้องน้อย ส่วนใหญ่มักเริ่มปวดก่อน และหลังมีประจำเดือน (ส่วนใหญ่มักไม่เกิน 14 วันหลังมีประจำเดือน) เป็นอาการปวดหน่วงตลอดเวลา ร่วมกับปวดเกร็งเป็นระยะ และจะรู้สึกปวดมากขึ้นเมื่อมีการเคลื่อนไหว หรือขณะมีเพศสัมพันธ์

3. ถ้ามีอาการคลื่นไส้ อาเจียน หรือท้องเสียร่วมด้วย แสดงว่าโรคได้ลามไปถึงเยื่อบุช่องท้องแล้ว ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ อาจเป็นอันตรายได้

4. ตกขาวผิดปกติขุ่น เป็นสีเขียว เหลือง หรือตกขายใสแต่มีกลิ่น


โรคนี้ไม่ได้เป็นอันตรายแค่ส่วนมดลูกเท่านั้นนะคะ เพราะหากปล่อยทิ้งไว้อาจทำให้เกิดเป็นฝีในรังไข่ หรือท่อรังไข่ ซึ่งจะทำให้เป็นแผลเป็นจนกลายเป็นหมันได้ และมีโอกาสเกิดการตั้งครรภ์นอกมดลูก มากกว่าปกติ บางคนอาจมีอาการปวดท้องน้อยเรื้อรัง และเจ็บปวดเวลาร่วมเพศ นอกจากนี้ในบางรายเชื้อโรคอาจลุกลาม จนทำให้เกิดเยื่อบุช่องท้องอักเสบ ถ้ารุนแรงอาจกลายเป็นโลหิตเป็นพิษและอาจเสียชีวิตได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าเกิดจากการทำแท้ง

ฟังแล้วโรคนี้ร้ายแรงกว่าที่คิดใช่ไหมคะสาวๆ อ่านแล้วสาวๆ คงรู้ดีว่าตัวเองเป็นกลุ่มเสี่ยงหรือไม่ อย่างไรห่างไกลโรคไว้ด้วยการเดินทางสายกลางและรักษาร่างกายเราให้สะอาดและแข็งแรงอยู่เสมอ ก็ช่วยให้ห่างไกลโรคได้แล้วค่ะ

by Daaw  Chonlada
 
ที่มาข้อมูล : www.chicministry.com