(http://uppic.nickcs.com/upload/big/2014/02/19/5304432668738.jpeg) (http://board.nickcs.com/go.php?http://uppic.nickcs.com/img-5304432668b1c.html)
บริษัทอิเล็กทรอนิคส์ยักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้ อาจจะมีการใช้อุปกรณ์สวมใส่ในการผลักดันซอฟท์แวร์ของตน แทนการพึ่งพาบริการจากกูเกิล USA Today รายงาน
โดยในรุ่นที่สองของนาฬิกาข้อมือสุดอัจฉริยะ Samsung Galaxy Gear จะรันด้วยซอฟท์แวร์ของซัมซุงเอง (Tizen) แทนการใช้ระบบปฏิบัติการ Android เหมือนดั่งเช่นในรุ่นแรก แหล่งข่าววงในกล่าว โดย ซัมซุง อาจจะมีการเปิดตัวอุปกรณ์ดังกล่าวภายในงาน Mobile World Congress ที่จะมีขึ้นที่บาร์เซโลน่าในสัปดาห์หน้า ซึ่งนอกจากนี้ ซัมซุง ยังจะมีการทำงานในสมาร์ทโฟนที่จะใช้ระบบปฏิบัติการดังกล่าว รวมถึงอุปกรณ์ Tizen อื่นๆ เพื่อเปิดตัวในช่วงครึ่งปีแรกอีกด้วย แต่ทั้งนี้ แผนการต่างๆยังคงสามารถเปลี่ยนแปลงได้
ระบบปฏิบัติการ Tizen เป็นความพยายามหนึ่ง เพื่อไม่ให้ซัมซุงต้องพึ่งพากูเกิลมากจนเกินไป โดยมีการทำงานในซอฟท์แวร์แบบโอเพ่นซอร์สมานานหลายเดือนแล้ว อย่างไรก็ตาม การพัฒนาต้องหยุดชะงักไป หลังจากที่ ผู้ให้บริการเครือข่ายของญี่ปุ่น NTT DoCoMo ตัดสินใจชะลอแผนการนำเสนอโทรฯมือถือ Tizen ที่เดิมมีกำหนดเปิดตัวในเดือนมีนาคม และก่อนหน้านี้ แผนการเปิดตัวโทรฯมือถือ Tizen รุ่นระดับบนในเดือนกันยายน ปี 2013 ก็มีอันต้องถูกเลื่อนออกไปหลายเดือน และจนแล้วจนรอดก็ยังไม่มีการเปิดตัวออกมาซักที โดยการที่ ซัมซุง จะเปิดตัว Tizen บนนาฬิกาอัจฉริยะนั้น อาจจะช่วยให้ผู้ใช้มีความคุ้นเคยกับระบบปฏิบัติการดังกล่าวมากขึ้น และอาจจะเป็นช่องทางให้ซัมซุง สามารถควบคุมซอฟท์แวร์ดังกล่าวได้ง่ายขึ้น อีกเหตุผลหนึ่งที่อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้อง นั่นคือ ปัจจุบันผู้ผลิตนาฬิกาอัจฉริยะซึ่งได้รับความนิยม อย่างเช่น Pebble ก็มีการใช้ระบบปฏิบัติการของตนเอง รวมถึงมีข่าวว่า กูเกิลก็กำลังจะผลิตนาฬิกาอัจฉริยะของตนเองอีกด้วย
ปัญหาการขาดแอพฯ Tizen บนสมาร์ทโฟน อาจไม่เป็นปัญหากับอุปกรณ์อย่าง นาฬิกาอัจฉริยะ มากนัก เพราะ Galaxy Gear เอง ก็มีแอพฯอยู่ค่อนข้างจำกัดอยู่แล้ว ดังนั้นจึงเชื่อว่า การเปลี่ยนมาใช้ Tizen ใน Galaxy Gear 2 จะไม่ทำให้เกิดความแตกต่างจากการใช้ Android
ที่มา CNET
ที่มา: pantip.com