(http://uppic.nickcs.com/upload/big/2014/06/19/53a29367009b1.jpeg) (http://board.nickcs.com/go.php?http://uppic.nickcs.com/img-53a2936700db5.html)
(http://uppic.nickcs.com/upload/big/2014/06/19/53a2933c05e87.jpeg) (http://board.nickcs.com/go.php?http://uppic.nickcs.com/img-53a2933c06253.html)
หลังจากลือกันมาเสียนาน ล่าสุด Amazon ก็ได้ฤกษ์เปิดตัว Fire Phone อย่างเป็นทางการแล้ว โดยจะมีหน้าจอแสดงผลขนาด 4.7 นิ้ว ใช้ชิปประมวลผล(ควอดคอร์) 2.2GHz จีพียู Adreno 330 และแรมขนาด 2GB
Jeff Bezos ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ Amazon ได้เปิดตัวแนะนำโทรฯมือถือเครื่องแรกของค่าย Fire Phone ซึ่งจะมีการใช้วัสดุจอแบบ Gorilla Glass 3 ที่แข็งแรงทนทาน และปุ่มอะลูมิเนียม โดยจะมีกล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ซึ่งประกอบไปด้วยเลนส์กล้องจำนวน 5 ชิ้น ขนาดรูรับแสง F/2.0 และระบบป้องกันภาพสั่นไหว โดย Bezos ได้มีการเปรียบเทียบภาพที่ได้จากการถ่ายในสภาวะแสงน้อยกับ Galaxy S5 และ iPhone 5S ซึ่ง Fire Phone ให้คุณภาพที่เหนือกว่า นอกจากนี้ ยังสามารถใช้ปุ่มชัตเตอร์ เพื่อเปิดการทำงานของกล้องได้ และมาพร้อมพื้นที่จัดเก็บภาพฟรีแบบไม่จำกัด (บน Amazon Cloud Drive)
นอกจากนี้ ยังมีคุณสมบัติ Second Screen, Mayday และ X-Ray แบบเดียวกับที่พบได้ใน Kindle Fire รวมถึง Prime Music ที่เพิ่งเปิดให้บริการเมื่อเร็วๆนี้อีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ได้มีการแนะนำฟีเจอร์ใหม่ Firefly ซึ่งจะช่วยสแกนเบอร์, หนังสือ, ดีวีดี และวัตถุต่างๆหลายล้านชิ้นในเวลาไม่กี่วินาที เพื่อแสดงข้อมูลหรือเสนอการซื้อขายที่เกี่ยวข้อง โดยสามารถจดจำเพลงและรายการทีวีได้ด้วย และคุณสมบัติที่เรียกความสนใจได้ไม่น้อย นั่นคือ Dynamic Perspective โดยจะมีกล้องทั้งสี่มุมเพื่อจับใบหน้า ซึ่งจะแสดงผลภาพแบบ 3 มิติในมุมที่แตกต่างกันเมื่อเอียงหรือขยับโทรฯไปมา อย่างไรก็ตาม ทั้งคุณสมบัติ Dynamic Perspective และ Firefly จะยังเปิดใช้เฉพาะนักพัฒนาเท่านั้น(ในตอนแรก)
โดย Amazon เปิดให้ผู้ที่สนใจสามารถสั่งจอง Fire Phone ได้แล้ววันนี้ แต่จะยังไม่มีการจัดส่งสินค้าจนกว่าจะถึงวันที่ 25 กรกฎาคม โดยในรุ่น 32GB จะจำหน่ายกันอยู่ที่ราคา 199.99เหรียญสหรัฐฯ สำหรับแบบติดสัญญา (AT&T) หรือ 299.99เหรียญสหรัฐฯ ในรุ่น 64GB (แบบติดสัญญาเช่นกัน) โดยทั้งสองแบบจะสามารถใช้บริการ Prime ได้ฟรี 12 เดือน
ที่มา TechSpot
ที่มา: pantip.com