Nick Computer Services

News & Public Relation => General News => Topic started by: Nick on March 10, 2015, 04:21:54 PM

Title: "ธัมมชโย" เบี้ยวนัดดีเอสไอ ส่งทนายเลื่อน ปัดเห็นเช็ค แต่รับเงินสร้างศาสนสถานวัด
Post by: Nick on March 10, 2015, 04:21:54 PM
(http://uppic.nickcs.com/upload/big/2015/03/10/54feb79d06ebe.jpeg) (http://board.nickcs.com/go.php?http://uppic.nickcs.com/img-54feb79d072a4.html)


"ธัมมชโย" เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย เลื่อนให้ปากคำดีเอส เป็นวันที่ 26 มี.ค.กรณีรับเงินบริจาคของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น อ้างมีปัญหาสุขภาพ และต้องรวบรวมพยานหลักฐานเอกสารจำนวนมาก มอบให้ พงส.ยันไม่เคยเห็นเช็คที่สั่งจ่ายเข้าวัด แต่มีเจ้าหน้าที่ของวัดนำเช็คไปขึ้นเงิน จำนวน 13 ใบ 684 ล้านบาท ไม่ใช่ 800 กว่าล้าน ระบุเงินจำนวนนี้ก็ได้ถูกนำไปใช้สร้างศาสนสถานภายในวัดพระธรรมกายหมดแล้ว
       
       วันนี้(10มี.ค.) เมื่อเวลา10.30 ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)นายสัมพันธ์ เสริมชีพ ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ปกรณ์ สุชีวกุล หัวหน้าชุดติดตามร่องรอยทางการเงินสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น และ วัดพระธรรมกาย เพื่อขอเลื่อนนัดสอบปากคำ กรณีรับเงินบริจาคของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นที่ถูกนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์ฯ และพวก ร่วมกันยักยอกทรัพย์
       
       ทั้งนี้ พระธัมมชโยขอเลื่อนนัดให้ปากคำกับดีเอสไอไปเป็นวันที่ 26 มี.ค. เวลา 10.00น. โดยให้เหตุผล ว่ามีปัญหาเรื่องสุขภาพ จากโรคเบาหวานและความดัน ประกอบกับต้องรวบรวมพยานหลักฐานเอกสารจำนวนมาก เพื่อนำมามอบให้กับพนักงานสอบสวน
       
       "พระธัมมชโย" ไม่เคยเห็นเช็คที่สั่งจ่ายเข้าวัด เพราะเมื่อมีคนนำมาบริจาค ก็จะใส่มาในซอง โดยจ่าหน้าซองชัดเจนว่าจะบริจาคให้ใคร จากนั้นเมื่อรับมาแล้วก็จะมีเจ้าหน้าที่ของวัดนำเช็คไปขึ้นเงิน จำนวน 13 ใบ รวมเป็นเงินประมาณ 684 ล้านบาท ไม่ใช่ 800 กว่าล้านตามที่เป็นข่าว และเงินจำนวนนี้ก็ได้ถูกนำไปใช้ในการสร้างศาสนสถานภายในวัดพระธรรมกายหมดแล้ว" ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากพระธัมมชโย กล่าว
       
       สำหรับกรณีที่ลูกศิษย์วัดพระธรรมกายได้จัดตั้งกองทุนเพื่อช่วยเหลือเยียวยาสมาชิกของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น นั้น นายสัมพันธ์ กล่าวว่า เป็นความจริง แต่ไม่ใช่การระดมเงินเพื่อนำมาคืนให้กับสหกรณ์แต่อย่างใด ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจายอดเงินที่ไม่ตรงกัน และศาลมีกำหนดนัดไกล่เกลี่ยในวันที่ 16 มี.ค.นี้
       
       พ.ต.ท.ปกรณ์ กล่าวว่า ดีเอสไอให้เลื่อนการเข้าให้ปากคำได้เพียงครั้งเดียว ซึ่งหลังจากนี้ หากมีการขอเลื่อนอีก จะต้องนำเรื่องเข้าที่ประชุมเพื่อพิจารณา อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวนต้องการให้บุคคล หรือนิติบุคล ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามาสอบปากคำที่ดีเอสไอในฐานะพยาน ซึ่งพร้อมดูความปลอดภัยและความสะดวกให้ จึงควรแสดงความบริสุทธิ์ใจด้วยการเข้าพบพนักงานสอบสวนในฐานะมีชื่อรับเช็คจากนายศุภชัย ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนจะไม่มีการไปสอบปากคำพยานนอกสถานที่เพราะถือเป็นเรื่องไม่เหมาะสม

ที่มา: manager.co.th