“ปอ” ยอมรับวัยห่าง “โจ” 14 ปีทำมีปัญหาต้องปรับตัวเยอะ เผยโดนแฟนหนุ่มสั่งสอนจนนึกว่าเป็นพ่อ แถมคุมเข้มไม่ให้ออกไปเที่ยว ลั่นไม่อึดอัด บอกทำตนสุขภาพดีขึ้น หันมาชวนกันออกกำลังกายมากขึ้น
คบหากันมาได้ร่วมปีแล้ว สำหรับคู่รักต่างวัยอย่างอดีตนักร้องสาว “ปอ ภัคพร ภูวะปัจฉิม” กับนักร้องรุ่นพี่ “โจ จิรายุ วรรธนะสิน” แต่ด้วยวัยที่ห่างกันมากถึง 14 ปี ทำให้สาว “ปอ” ต้องปรับตัวค่อนข้างเยอะ เพราะฝ่ายชายชอบสอนเหมือนพ่อ ซึ่งสาวเจ้าก็เผยว่าผ่านช่วงหวานแหววมาแล้ว แต่ก็เข้าใจนิสัยใจคอกันมากขึ้น
“ความรักก็โอเคค่ะ คบกันได้ประมาณปีนึงแล้ว ตอนนี้อยู่ในช่วงที่รู้จักนิสัยใจคอกันมากขึ้น ซึ่งพี่เขาก็โอเคนะคะ มีอะไรก็ปรึกษากันไปปรึกษากันมา อย่างที่บ้านปอทำเรื่องเกี่ยวกับอสังหาฯอยู่แล้ว ทำคอนโด เขาจะซื้อคอนโดก็มาปรึกษาปอว่าแต่งอะไรยังไง เพราะส่วนมากปอก็ทำคอนโดให้เช่ากับขายอยู่แล้ว”
“หวานแหววไหมเหรอ ไม่ได้หวานแหววแล้ว แต่ไม่ได้ทะเลาะกัน คือปกติค่ะ เขาเอาใจไหม จริงๆ เขาดูร็อกๆ แมนๆ แต่ปอว่าเขาก็ละเอียดนะ ไปไหนมาไหนก็ซื้อของมาฝากตลอด แต่เราบอกว่าไม่เอา ก็โอเค ช่องว่างระหว่างวัยห่างกัน 14 ปี ก็เยอะนะ แต่ก็ไม่ได้มีอะไรที่มันหนักหนานะคะ แต่พี่เขาจะชอบสอน บางทีนึกว่าพ่อ เราก็บอกพอแล้ว(หัวเราะ) ก็มีทั้งสอนดีๆ มีทั้งดุ อึดอัดไหมก็ไม่หรอก ไม่ถึงขั้นนั้น เพราะเราก็เข้าใจว่าเขาเป็นห่วง เราก็ไม่ได้ทำตามทุกอย่างที่พี่เขาบอกหรอก(หัวเราะ) ไม่ใช่ว่าเราดื้อนะ เขาก็ดื้อเหมือนกัน”
บอกยิ่งคบกันทำให้ตนเป็นผู้ใหญ่ขึ้น ไม่อึดอัดถูกแฟนรุ่นพี่คอยห้ามไม่ให้ออกไปเที่ยวไหนเหมือนอย่างที่เคยทำ
“เรื่องปรับตัวก็คงต้องปรับกันค่ะ เพียงแต่ที่ปอปรับไม่ใช่เพราะว่ามาคบพี่เขา แต่เพราะเมื่อก่อนปออาจจะเอาแต่ใจ งอแงเหมือนผู้หญิงทั่วไป ความสัมพันธ์มันก็สอนเรา ความสัมพันธ์ครั้งนี้เราก็เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น คุยแบบผู้ใหญ่ รู้เรื่อง เข้าใจ ก็เลยไม่มีปัญหา เรื่องแต่งตัวพี่เขาก็ไม่ได้ห้ามอะไรค่ะ ปกติ เพราะจริงๆ ปอก็ไม่ค่อยได้แต่งตัวอะไรเซ็กซี่อยู่แล้วในชีวิตจริงนะคะ”
“เรื่องหึงคงไม่เรียกอย่างนั้นดีกว่า แต่มีแบบไม่ค่อยอยากให้ออกไปไหน คอยถามตลอดว่ากลับบ้านหรือยัง(หัวเราะ) ไม่ค่อยให้ไปเที่ยวไหน แต่ปกติปอจะไปเจอกลุ่มเพื่อนๆ บ่อย เพราะเราก็มีเพื่อนเยอะ แต่พอเป็นอย่างนี้เราก็โอเค พยายามปรับ เราก็นานๆ ไปทีนะ ถ้าไม่สำคัญก็ไม่ไป ก็ไม่อึดอัด แต่ตอนแรกก็อาจจะมีรู้สึกไม่ชิน เพราะเมื่อก่อนเราก็ทำได้ แต่ตอนนี้ก็รู้สึกว่ามันก็ดีนะ ทำให้สุขภาพเราดี ก็ชวนกันออกกำลังกาย ปอไปฟิตเนส เขาก็ขี่จักรยาน คือแยกกันไปออกกำลังที่ชอบ และตอนนี้เขากำลังบ้าจักรยานเสือภูเขา ก็จะชวนไปขี่ตลอด น่องปูดเลย”
“เวลาพี่เขาไปทัวร์คอนเสิร์ตปอไม่ค่อยได้ตามไปด้วยหรอก แต่เขาก็ชวนนะคะ อย่างที่เขากำลังจะไปอเมริกา ไปยุโรป แต่ปอก็ติดงาน แล้วแม่ก็ไม่ให้ไปด้วย(หัวเราะ) ไปไม่ได้อยู่แล้วค่ะ ไม่ให้ไปสองต่อสอง ก็ใช้โทรคุยกัน”
เผยตอนนี้หันมาจับธุรกิจทำช่องเคเบิ้ลทีวี ยอมรับลงทุนไปเยอะ และอนาคต “โจ” ก็อาจจะเข้ามาร่วมทำรายการด้วย
“ตอนนี้ร่วมกันทำช่องเคเบิ้ลกับพี่ๆ หลายๆ คน แล้วก็ทำมาร์เก็ตติ้งด้วย ทำพิธีกรบ้าง แล้วก็มีพี่ๆ ในวงการอีกหลายคนที่ร่วมด้วย แต่ยังไม่เปิดตัวเป็นทางการ ก็มีหลายหุ้นค่ะ มีพี่ที่เป็นนักธุรกิจด้วย มีพี่ที่แกรมมี่ด้วย แต่ส่วนตัวปอก็คิดว่าลงไปเยอะนะคะ แต่ปอคิดว่าการทำช่องๆ นึงปอว่าเยอะแล้ว แต่มีคนเยอะกว่า บางทีคอร์สของแต่ละเดือนมันหลายล้านมาก มันเยอะมาก แล้วกำลังจะเข้าตลาดหลักทรัพย์มันก็เยอะมาก”
“เปิดมาได้เป็นปีแล้วค่ะ เป็นช่องเกี่ยวกับอาหารและท่องเที่ยว ก็มีมิวสิคด้วย มีของต่างประเทศหลายค่ายมาก และส่วนมากมันจะออกต่างประเทศ ในเอเชียด้วย และประมาณปีหน้าจะไปออสเตรเลียค่ะ แล้วก็มีรายการของพี่ธัญญ่า (ธัญญาเรศ เองตระกูล) มีพี่ๆ อีกหลายคน แต่ว่าเขาไม่ได้หุ้นนะคะ เขาแค่ทำรายการในนี้ ก็มีหลายคนค่ะ แล้วมันก็จะมีอย่างบางรายการพูดภาษาอังกฤษ อย่างพูดภาษาไทยก็จะมีซับไตเติ้ลให้”
“ช่องนี้เปิด 24 ชม.ค่ะ แต่ปอโชคดีที่มีพี่ที่เก่งๆ บริหาร ปอก็เป็นหนึ่งในคนช่วยเฉยๆ แต่ปัญหาก็มีเยอะค่ะ เพราะว่าทำธุรกิจมันมีปัญหาแน่นอน แต่มันเป็นอะไรที่เรียกว่ากำลังเริ่มตั้งไข่ แต่ยังโชคดีที่ได้รับความเชื่อถือจากลูกค้า ตอนนี้ก็มีนกแอร์ มีโค้กมีอะไรอย่างอื่นอีก คือเขาเข้ามาเป็นสปอนเซอร์หลักเราก็โอเค แต่เรื่องธุรกิจที่ปอทำอยู่นี่ พี่เขาไม่ได้มาทำด้วยค่ะ แต่ก็มีคุยกันว่าพี่เขาอยากจะทำอะไรอย่างนั้นอย่างนี้ ก็อาจจะเข้ามาทำบ้าง อาจจะอนาคต อาจจะเป็นรายการของเขา คงต้องรอดูค่ะ”
ที่มา: manager.co.th
