Author Topic: อินเทลดึง 9 พันธมิตรลุยคอมพ์ช่วยชาติ  (Read 1074 times)

0 Members and 2 Guests are viewing this topic.

Offline Reporter

  • Moderator
  • Gold Member
  • *
  • Posts: 1093
  • Karma: +8/-0
  • Gender: Male
    • ซ่อมคอมเชียงใหม่

อินเทลใส่เกียร์รุกโปรเจค "คอมพ์ราคาประหยัดเพื่อคนไทย" ผนึกพันธมิตรผู้ค้าไอที-สื่อสาร-สถาบันการเงิน 9 ราย ทำเครื่องประกอบราคาดีที่สุดในตลาด

  นายเอกรัศมิ์ อวยสินประเสริฐ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า อินเทล ประกาศความร่วมมือกับพันธมิตรในอุตสาหกรรมไอที โทรคมนาคม และสถาบันการเงิน รวม 9 ราย ประกอบด้วยซัมซุง แคนนอน กิกะไบต์ ซีเกท ไมโครซอฟท์ ทีทีแอนด์ที จีวิว นีโอลูชั่น และเฟิร์สช้อยส์ ร่วมกันทำคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ (เดสก์ทอป) ภายใต้โครงการคอมพิวเตอร์เพื่อคนไทย (My Family PC)
 

ทั้งนี้ โครงการลักษณะนี้จัดเป็นครั้งที่ 3 นับตั้งแต่อินเทล (ประเทศไทย) เป็นผู้ริเริ่ม ตั้งแต่ปี 2548 และเป็นต้นแบบให้อินเทลในอินเดีย และอินโดนีเซีย นำไปทำตลาดในประเทศเหล่านั้น


 เขาระบุว่า โครงการครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรเพิ่มจากเดิมที่มีเพียง 3-4 ราย เพราะสามารถกระตุ้นตลาดผู้ใช้คอมพิวเตอร์เครื่องแรก และตลาดคอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษาในต่างจังหวัดได้อย่างมาก ซึ่งที่ผ่านมามียอดขาย 89,000 เครื่อง โดยขณะนั้นราคาเครื่องเริ่มต้นที่ 19,000 บาท


จับมือศธ.ค้นหาอัจฉริยะไอที
 ขณะเดียวกัน โครงการนี้ได้รับความร่วมมือจากสำนักเทคโนโลยีเพื่อการเรียนการสอน สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เป็นผู้สนับสนุนในการจัดกิจกรรมเดินสายให้ความรู้ด้านเทคโนโลยี กับครูและนักเรียน รวมทั้งจัดแข่งขันหา "อัจฉริยะไอที" ซึ่งจะเป็นการทดสอบความรู้และความสามารถในการใช้คอมพิวเตอร์ของเยาวชน ชิงทุนการศึกษากว่า 9 แสนบาท โดยอยู่ระหว่างการเตรียมแผนงานก่อนเปิดเทอม


 นอกจากนี้ ยังได้บันเดิลระบบติวเตอร์ออนไลน์ ผ่านเว็บ www.keenskool.net รับรหัสผ่านใช้งานฟรี  3 เดือน รวมทั้งแพคเกจซื้ออุปกรณ์ต่อพ่วง เช่น พริ้นเตอร์ ซอฟต์แวร์ไมโครซอฟท์ และอินเทอร์เน็ต ราคาพิเศษ รวมทั้งโปรแกรมผ่อนชำระ 0% นาน 5 เดือน


 "โครงการในครั้งนี้ ไม่ได้มีจุดประสงค์จะปิดทางตลาดพีซี โลคัล แบรนด์ หรือแข่งขันกับผู้ค้าพีซีแบรนด์ใด เนื่องจากเป็นความร่วมมือกับพันธมิตรในเกือบทุกราย และยังเปิดรับพันธมิตรใหม่ที่สนใจ เพื่อกระตุ้นตลาดเดสก์ทอปร่วมกัน และช่วยผู้ใช้ในสภาวะที่เศรษฐกิจฝืดเคืองให้สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีได้อย่างเท่าเทียมกัน รวมทั้งยังกำหนดเวลาจำหน่ายเครื่องเพียงสิ้นเดือน ธ.ค.ปีนี้" นายเอกรัศมิ์กล่าว


มุ่งเป้านร.ทั่วประเทศ 13 ล้านคน
 ขณะที่ การประเมินตลาดคอมพิวเตอร์ของอินเทลพบว่า ในต่างจังหวัดมีผู้ใช้พีซีเพียง 10-15% ขณะที่กลุ่มนักเรียนระดับมัธยมต้น-ปลาย ทั่วประเทศ ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของโครงการในครั้งนี้ มีจำนวนกว่า 13 ล้านคน


 อย่างไรก็ตาม เขายอมรับว่า สถานการณ์ตลาดเครื่องประกอบในช่วงนี้เริ่มเติบโตแบบทรงตัว เนื่องจากกระแสนิยมโน้ตบุ๊ค ประกอบกับสภาพเศรษฐกิจไม่เอื้อต่อการซื้อเครื่องใหม่ ซึ่งปัจจุบันมีส่วนแบ่งในตลาดคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะรวมราว 55-60%


 "เรายังมี Room for Grow อีกมาก โดยเฉพาะตลาดต่างจังหวัด และกลุ่มการศึกษา ซึ่งเศรษฐกิจแบบนี้โครงการแบบนี้ ทำให้ผู้ซื้อ ซื้อเครื่องง่ายขึ้น ผู้ขายก็สามารถทำตลาดได้ดี ก็น่าจะช่วยกระตุ้นตลาดได้มาก และยังสอดคล้องกับนโยบายกระตุ้นตลาดของภาครัฐช่วงนี้ได้อย่างตรงประเด็นด้วย" นายเอกรัศมิ์กล่าว


ตัวแทน150รายพร้อมรับเช็คช่วยชาติ
 นายสนธิญา หนูจีนเส้ง ผู้จัดการฝ่ายขาย บริษัท อินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า โครงการนี้มีเดสก์ทอปให้เลือก 5 รุ่น โดยหนึ่งในนั้นเป็นเดสก์ทอปที่ใช้ซีพียูราคาประหยัด หรือเรียกว่า "เน็ตทอป" ราคาพร้อมจอซัมซุง 17 นิ้ว  8,900 บาท ส่วนราคาเครื่องสูงสูด ใช้ซีพียูรุ่นล่าสุด "คอร์ ไอเซเว่น" พร้อมจอแอลซีดี 23 นิ้ว ราคา 49,900 บาท


 พร้อมกันนี้ อินเทล ได้ให้สิทธิพันธมิตรตัวแทนจำหน่ายเครื่องทั้ง 150 รายทั่วประเทศ ครอบคลุม 60 จังหวัด รับเช็คช่วยชาติ 2,000 บาท สำหรับซื้อเครื่องได้อย่างอิสระ รวมทั้งยังสามารถจัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขายเพิ่มเติมได้ตามต้องการ


 รวมทั้งจัดทำเว็บไซต์  "myfamily-pc.com" เพื่อให้ข้อมูลเบื้องต้นก่อนตัดสินใจซื้อ และเปิดคอลล์ เซ็นเตอร์ สอบถามข้อมูลผ่านเบอร์ 0-2440-0333


 เขามองว่า ราคาเครื่องที่กำหนดในครั้งนี้เป็นราคาที่ได้มาร์จิ้นดีที่สุดแล้ว ซึ่งหากผู้ประกอบการจะซื้อเครื่องเพื่อไปแยกชิ้นส่วนขาย หรือนำไปขายต่อในราคาที่นอกเหนือจากที่กำหนดจะไม่คุ้มค่าแน่นอน


 "บริษัทมั่นใจว่าชิ้นส่วนประกอบเครื่องแต่ละรายการ เป็นชิ้นส่วนคุณภาพที่คัดเลือกแล้ว และหากเทียบกับเครื่องประกอบในท้องตลาดเชื่อว่า ราคาที่อินเทลกำหนดครั้งนี้ เป็นราคาที่ดีที่สุดที่ผู้ค้าจะทำได้" นายสนธิญากล่าว


 ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้ามียอดขายเครื่องไม่ต่ำกว่า 1 แสนเครื่อง ภายในสิ้นปี 2552


ที่มา: bangkokbiznews.com


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)