สถานการณ์ตลาดเครื่องพิมพ์ระอุ หลังสัญญาณการเติบโตหดตัวเหลือ 10% จะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนี้...โปรดติดตาม!
พรินเตอร์ยอดโตลดเหลือ 10% เอชพีปรับแนวทางทำตลาดใหม่ระดับภูมิภาคเป็นครั้งแรก หันแจกเครื่องฟรี มุ่งทำกำไรจากหมึกพิมพ์แทน เน้นเจาะกลุ่มเอสเอ็มอี คอนซูเมอร์ พร้อมเสนอโซลูชั่นผ่อนจ่ายเดือน เจาะกลุ่มเอ็นเตอร์ไพร์ซ คาดช่วยเข็นยอดเพิ่มไม่ต่ำกว่า 20%
ขณะที่แคนนอนเตรียมผนึกคอมพ์รายใหญ่ ซื้อคอมพ์แถมพรินเตอร์ฟรีคาดสรุปเร็วๆ นี้ ส่วนเอปสันเร่งปรับแผนการตลาดรับโครงสร้างใหม่ ก่อนทำโปรโมชั่นสู้ บราเดอร์ไม่ท้อออกแผน "บาลานซ์ ดีพลอยเมนท์" เข้าสู้ ให้ลูกค้ามองการลงทุนระยะยาว ไม่ผูกติดสัญญาหลายปี
เอชพีปรับแนวทางตลาด
นายสมชัย สูงสว่าง ผู้จัดการทั่วไป กลุ่มธุรกิจภาพ และการพิมพ์ บริษัทฮิวเลตต์-แพคการ์ด (ประเทศไทย) กล่าวว่า ปีนี้คาดว่า ตลาดพรินเตอร์จะมีอัตราการเติบโตที่ลดลง จากปกติเติบโตต่อปีราว 15% แต่ปีนี้คาดว่าตลาดจะโตเพียง 10% เท่านั้น
ขณะที่กำไรต่อเครื่อง (มาร์จิ้น) ของพรินเตอร์ โดยภาพรวม มีการปรับตัวลดลง ทำให้ต้องหันมามุ่งเน้นทำกำไรจากยอดขายของหมึกพิมพ์แทน โดยยังมีการเติบโตของตลาดอยู่ เพราะปัจจุบันลูกค้าเปลี่ยนเครื่องน้อยลง แต่หมึกพิมพ์ยังมีการใช้อยู่อย่างต่อเนื่อง
เอชพีจึงได้ปรับแนวทางการทำตลาดใหม่ ถือเป็นการปรับในระดับภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิกเป็นครั้งแรก โดยเปิดแคมเปญ “เอชพี ออฟฟิศเจ็ต โปร ลิสซิ่ง โปรแกรม” สำหรับกลุ่มลูกค้าเอสเอ็มบี รวมถึงกลุ่มคอนซูเมอร์ โดยให้ใช้เครื่องฟรี 12 เดือน 2 รุ่นหลัก คือ ซิงเกิล ฟังก์ชั่น ราคา 5,390 บาท และมัลติ ฟังก์ชั่น 11,900 บาท แต่มีข้อแม้ต้องซื้อหมึกพิมพ์ 2 ตลับทุกเดือน ผ่อนจ่ายรายเดือนเฉลี่ยเดือนละ 2,230 บาท ค่าบริการฟรี
ทั้งนี้ ตลับหมึกสี ราคา 1,290 บาท ขณะที่หมึกขาวดำราคา 940 บาท รวมเป็น 2,230 บาท
ขณะที่ กลุ่มเอ็นเตอร์ไพร์ซ บริษัทจะเสนอโซลูชั่น “แมเนจ พรินท์ เซอร์วิส” (เอ็มพีเอส)การบริหารจัดการการพิมพ์แบบครบวงจร โดยเป็นการเช่าใช้รายปี ซึ่งลูกค้าสามารถเซ็นสัญญาได้ในระยะยาว และสามารถจ่ายค่าเช่าเมื่อหมดสัญญาปีต่อปีได้
“ปัจจุบันเอชพีมีลูกค้าในกลุ่มคอร์ปอเรทราว 1,000 ราย ซึ่งในจำนวนนี้มี 50 รายที่ใช้บริการเอ็มพีเอส ถือป็นบริการที่มีการเติบโตเพิ่มขึ้น ซึ่งในต่างประเทศเป็นบริการที่ได้รับความนิยมมาก”
นายสมชัย กล่าวว่า ตลาดพรินเตอร์ปัจจุบันมาร์จิ้นปรับตัวลดลง ขณะทีหมึกพิมพ์ยังเป็นตลาดที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และในภาวะเศรษฐกิจช่นนี้การลงทุนใหม่ของลูกค้า โดยเฉพาะกลุ่มเอสเอ็มบีคงเป็นเรื่องที่ยาก แคมเปญที่ออกมานี้จะช่วยให้ลูกค้าสามารถแปลงค่าใช้จ่ายด้านการลงทุน เป็นค่าใช้จ่ายที่ควบคุมได้
“ในภาวะแบบนี้ เราจำเป็นต้องรักษาฐานลูกค้าเก่า ขณะเดียวกันต้องเข้าถึงลูกค้าใหม่ให้ได้กว้างขึ้นด้วย”
ปัจจุบัน เอชพีครองส่วนแบ่งตลาดพรินเตอร์ในกลุ่มเอสเอ็มอี ราว 38% ขณะที่กลุ่มเอ็นเตอร์ไพร์ซ 41% โดยรวมเอชพีมีส่วนแบ่งตลาดพรินเตอร์ราว 40% ทั้งนี้ คาดว่า แคมเปญดังกล่าวจะสามารถกระตุ้นส่วนแบ่งการตลาดได้เพิ่ม 20% ขณะที่ตลาดหมึกพิมพ์ คาดว่าจะเติบโตขึ้นไม่ต่ำกว่า 25%
ขณะที่เอชพีมีส่วนแบ่งในตลาดเลเซอร์เจ็ทรวมหมึกพิมพ์ราว 60% ขณะที่อิงค์เจ็ทรวมหมึกพิมพ์ 35%
“กลุ่มที่คาดว่าจะใช้แคมเปญใหม่นี้ เรามองใน 5 กลุ่มธุรกิจหลัก คือ กลุ่มราชการ เฮลธ์แคร์ กลุ่มธุรกิจอาหาร และเครื่องดื่ม กลุ่มธุรกิจค้าปลีก และกลุ่มสถาบันการเงิน”
นายสมชัย กล่าวด้วยว่า ขณะที่กำรต่อเครื่องมีการปรับตัวลดลง ทำให้นับจากนี้ตลาดจะมีการแข่งขันกันสูง และยิ่งภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ทุกรายต้องมีการปรับตัว รายที่แข็งแรงจะอยู่ได้ ส่วนรายที่ไม่แข็งแรงก็จะถูกซื้อ และหายไปจากตลาดในที่สุด
“ใครที่อยากอยู่ในตลาดได้ ก็ต้องปรับตัว สร้างมูลค่าเพิ่มให้ฮาร์ดแวร์ ไม่เน้นขายเครื่อง 100% แต่ต้องหันมาใช้โซลูชั่น บริการที่หลากหลายเพิ่มให้กับลูกค้า อย่างเอชพีที่ผ่านมาก็ขยายเข้าไปสู่กลุ่มงานที่เป็นกราฟฟิกมากขึ้น โดยการไปซื้อบริษัทที่แข็งแกร่งในงานกราฟฟิกมาเสริมให้ธุรกิจพรินติ้งสมบูรณ์มากขึ้น”
ทั้งนี้ จากการคาดการณ์ของเนคเทค คาดว่า ตลาดพรินเตอร์ปี 52 จะมียอดขายทั้งตลาดราว 1,395,000 เครื่อง หรือโตราว 2.5%
แคนนอนขายพ่วงคอมพ์
นายวรินทร์ ตันติพงศ์พาณิช ผู้อำนวยการและผู้จัดการทั่วไป ส่วนคอนซูเมอร์ซิสเตมโพรดักตส์ บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับผู้ค้าคอมพิวเตอร์ในการบันเดิลเครื่องพรินเตอร์ไปกับคอมพิวเตอร์ โดยคาดว่าจะสามารถกระตุ้นตลาดได้บ้าง เพราะถือว่า พรินเตอร์ และคอมพิวเตอร์ยังมีความจำเป็นต้องใช้คู่กันอยู่
ก่อนหน้านี้ เคยทำแคมเปญซื้อคอมพิวเตอร์แถมพรินเตอร์กับเดลล์ไปเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งปีนี้คงจะทำต่อเนื่อง ซึ่งจะสรุปผลได้เร็วๆ นี้
“ยอมรับว่ามาร์จิ้นของเครื่องพรินเตอร์ลดลง เพราะที่ผ่านมามีการแข่งขันด้านราคากันมาก ตั้งแต่ต้นปีจนถึงวันนี้กำไรต่อเครื่องลดลงไปแล้วไม่ต่ำกว่า 3-4% ก็ต้องหันมาเน้นแคมเปญที่พ่วงบริการเสริมเข้าไปให้มากขึ้น”
ทั้งยังกำลังเจรจากับกลุ่มเอ็นเตอร์ไพร์ซในการเปิดแคมเปญเช่าใช้ โดยคาดว่าจะสามารถสรุปได้เร็วๆ นี้
“สำหรับทิศทางของตลาดพรินเตอร์ ปีนี้คาดว่าน่าจะโตแบบทรงตัว โดยในไตรมาสแรกในส่วนของแคนนอนยอดขายโต 7% แต่ไตรมาสที่ 2 ยังไม่แน่ใจแต่เชื่อว่าตลาดน่าจะทรงตัว โดยหากมองครึ่งปีแรกเราน่าจะโตได้ในระดับ5%เท่านั้น”
เอปสันยึดฐานลูกค้ารายใหญ่
นายยรรยง มุนีมงคลทร ผู้อำนวยการบริหาร เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด เผยว่า เนื่องจากตลาดโดยรวมแข่งขันค่อนข้างสูง ซึ่งบริษัทก็ยอมรับว่า มีผลกระทบต่อส่วนต่างรายได้ในกลุ่มเครื่องพิมพ์ขนาดเล็กระดับหนึ่ง แต่เนื่องจากเอปสันยังคงแข็งแกร่งในตลาดเครื่องพิมพ์กลุ่มดอท เมทริกซ์ และเครื่องพิมพ์พาสบุ๊ค ซึ่งตัวเครื่องยังคงมีราคาสูง ขณะที่รายได้จากซัพพลายไม่มากนัก ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องเน้นการทำโปรโมชั่นรุนแรง
อย่างไรก็ตาม บริษัทกำลังปรับแผนการตลาดสำหรับโครงสร้างใหม่เร็วๆ นี้ ซึ่งคาดว่าอาจต้องศึกษาแผนการตลาดใหม่ และเริ่มทำโปรโมชั่นเสนอให้ผ่อนเครื่อง หรือการสนับสนุนด้านการเงินอื่นๆ สำหรับลูกค้ากลุ่มนี้ต่อไป
บราเดอร์ชูคุ้มค่าต่อการลงทุน
นายธีรวุธ ศุภพันธ์ภิญโญ ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายขายและการตลาด บริษัท บราเดอร์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า บริษัทเตรียมนำเสนอแผน "บาลานซ์ ดีพลอยเมนท์" ให้ลูกค้าองค์กรที่ใช้งานเครื่องตั้งแต่ 5-10 เครื่องขึ้นไป เพื่อวิเคราะห์ความต้องการใช้งานเครื่องพิมพ์ให้เหมาะสมภายในองค์กร ซึ่งบราเดอร์ต้องการให้ลูกค้ามองการลงทุนระยะยาวมากกว่าการลงทุนระยะสั้นเช่น การได้เครื่องเปล่า แต่ต้องผูกติดสัญญาใช้งานหลายปี
ทั้งนี้เนื่องจากเครื่องพิมพ์เป็นอุปกรณ์ที่มีอายุการใช้งานนาน และความต้องการใช้งานในแต่ละแผนกก็แตกต่างกัน
ที่มา: bangkokbiznews.com
