สำนักข่าวรัฐบาลอิหร่านรายงานว่า พบโปรแกรมหนอนคอมพิวเตอร์ในโรงงานไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์บูเชห์ร (Bushehr) ทางตอนใต้ของประเทศอิหร่านเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยพบว่าหนอนดังกล่าวถูกออกแบบมาเพื่อรบกวนการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ในโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ซึ่งเบื้องต้นไม่พบความเสียหายร้ายแรงใดๆ
โปรแกรมหนอนคอมพิวเตอร์ที่อาละวาดในโรงงานไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์บูเชห์รมีชื่อว่า Stuxnet ซึ่งเริ่มเป็นที่รู้จักตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ก่อนจะแพร่ระบาดทั่วอิหร่านจนเป็นข่าวดัง กระทั่งเมื่อมีข่าวการประกาศเลื่อนเปิดตัวโรงงานออกไปเป็นเดือนตุลาคม 53 นักวิจัยด้านการรักษาความปลอดภัยคอมพิวเตอร์จึงตั้งสมมติฐานว่า Stuxnet อาจจะถูกสร้างขึ้นเพื่อก่อกวนอุตสาหกรรมนิวเคลียร์ของอิหร่านก็ได้
คอมพิวเตอร์ที่ถูกติดตั้งหนอนคอมพิวเตอร์นี้จะมีความเสี่ยงถูกควบคุมเครื่องจากระยะไกลซึ่งจะมีผลกระทบต่อระบบงานในอุตสาหกรรม โดยข้อสมมติฐานนี้ทำให้มีการคาดการณ์ต่างๆนานาว่า Stuxnet อาจเป็นผลงานของประเทศที่ไม่เห็นด้วยต่อการพัฒนาโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านอย่างอิสราเอลและสหรัฐฯ ซึ่งยังไม่มีใครออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาที่เกิดขึ้น
หนอน Stuxnet นี้ทำงานบนข้อบกพร่องของระบบปฏิบัติการวินโดวส์ โดยจะมุ่งเป้าหมายที่ผู้ใช้ระบบซอฟต์แวร์ของบริษัท Siemens ซึ่งมักใช้งานในระบบควบคุมอุตสาหกรรม อย่างไรก็ตาม Mahmoud Jafari ผู้จัดการโครงการโรงงานนิวเคลียร์ Bushehr ให้สัมภาษณ์ว่า หนอนดังกล่าวไม่ได้สร้างผลกระทบร้ายแรงต่อระบบโรงงานนิวเคลียร์อิหร่านแต่อย่างใด แต่ยอมรับว่ากำลังอยู่ระหว่างการลบหนอนคอมพิวเตอร์นี้ออกจากคอมพิวเตอร์หลายเครื่องในโรงงาน
ข่าวคราวล่าสุดของโรงงานไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์บูเชห์ร คือการรับความช่วยเหลือจากรัสเซียในการบรรจุเชื้อเพลิงลงเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่โรงงานไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์บูเชห์รเมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ถือเป็นการเริ่มต้นของโรงงานไฟฟ้าแห่งนี้ที่จะผลิตกระแสไฟฟ้าจากเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์เพื่อกระจายไปหัวเมืองต่างๆได้ภายใน 2 เดือนข้างหน้า โดยรัฐบาลรัสเซียได้ให้คำมั่นสัญญาต่อประชาคมโลกว่าจะดูแลป้องกันไม่ให้อิหร่านนำวัตถุดิบจากโรงปฏิกรณ์นิวเคลียร์แห่งนี้ไปใช้ในการผลิตอาวุธนิวเคลียร์ตามที่ต่างชาติกังวล
ที่มา: manager.co.th