ยอดขายงานคอมมาร์ต 4 วัน กว่า3 พันล้านบาท สินค้าขายเพิ่ม แต่มูลค่าเงินเท่าเดิม"โน้ตบุ๊ค"ครองอันดับสูงสุด พลิกโผ "เดสก์ทอป" หลุดผัง 10 อันดับ
นายปฐม อินทโรดม ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอ.อาร์.อินฟอร์เมชัน แอนด์ พับลิเคชัน จำกัด ผู้จัดงานคอมมาร์ต กล่าวว่า ตลาดไอทีครึ่งปีแรกภาพรวมยังเติบโตได้ดี ทั้งปีน่าจะโตไม่ต่ำกว่า 8% ประเมินจากผลสรุปยอดเงินสะพัดในงานคอมมาร์ตช่วง 4 วัน มีมูลค่ากว่า 3,020 ล้านบาท ผู้เข้าร่วมงานกว่า 1 ล้านคน สูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้
สินค้าขายดีอันดับ1เป็น "โน้ตบุ๊คและเน็ตบุ๊ค"จำนวน72,500 เครื่อง มูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท แบรนด์ขายดีที่สุดติดอันดับ 1 ใน 3 คือ เอเซอร์ ฮิว เลตต์-แพคการ์ด (เอชพี) และโตชิบา รายหลังสุดทำยอดขายเพิ่มจากงานครั้งก่อนถึง50% คาดว่าเป็นผลจากโปรโมชั่นเครื่องเหลือ 1 หมื่นบาทต้นๆประกอบกับพื้นที่บูธใหญ่ขึ้น
อันดับ 2 และ 3 เป็น "จอภาพแอลซีดี" และ "แอลซีดี ทีวี" ตามลำดับ อันดับ 4 กล้องดิจิทัล และ 5 ฮาร์ดดิสก์ สินค้ากลุ่มอุปกรณ์เชื่อมต่อ เช่น แอร์การ์ด และแรม ยอดเพิ่มเป็น 300 ล้านบาท จากเดิม 200 ล้านบาท จากที่ผู้ซื้อหันมาอัพเกรดเครื่องแทนซื้อใหม่
คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ(เดสก์ทอป) ยอดขายไม่ติดอันดับ 1 ใน 10 สินค้าขายดีเป็นครั้งแรก แม้หลายแบรนด์จะทำโปรโมชั่นราคาไม่ถึง 10,000 บาท คาดว่าผู้ซื้อไม่นิยม ผู้ค้าหลายรายไม่เน้นยอดขาย แต่ไปทุ่มทำโปรโมชั่นโน้ตบุ๊คแทน
"ครั้งนี้มีพลิกโผหลายอย่าง เช่น เดสก์ทอปหายไป ไม่ใช่ว่าดีมานด์ไม่มี เชื่อว่าเป็นเพราะซัพพลายมากกว่า บางรายเอามาโชว์ ถ้าตกลงซื้อต้องรับเครื่องหลังงาน ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะขายไม่คล่องตัวเท่ากับโน้ตบุ๊ค และราคาก็ไม่ได้ดีกว่าโน้ตบุ๊คเท่าไร ในงานยังพบว่า ยอดขายโน้ตบุ๊ค แม้จะเพิ่มจากครั้งที่ผ่านมาถึงกว่าหมื่นเครื่อง แต่ก็มีมูลค่ารวมเท่าๆ เดิมคือ 2 พันล้านบาท"
ขณะที่พฤติกรรมผู้บริโภคส่วนใหญ่มีสินค้าที่ต้องการซื้ออยู่แล้ว และจะมุ่งตรงเข้าบูธที่ต้องการ เมื่อได้สินค้าแล้วก็รีบกลับ ไม่เดินทั่วงานเหมือนเดิม เชื่อว่าเป็นเพราะมีงบประมาณจำกัด และไม่ต้องการเพิ่มเงินซื้อสินค้าอื่นที่ไม่ได้วางแผนไว้ ทั้งยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต และระบบเงินผ่อนเพิ่มขึ้น แตะ 70% เป็นครั้งแรกจากเดิม 60%
ยอดการใช้จ่ายครั้งนี้สะท้อนว่า ผู้บริโภคยังเชื่อมั่นการจับจ่ายใช้สอยพอสมควร เชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นตลาดไอทีโดยรวมให้ฟื้นตัวได้เร็วขึ้น ส่วนนโยบายการกระตุ้นตลาดของภาครัฐนั้นอาจเห็นผลครึ่งปีหลัง จากการทุ่มเงินกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านโครงการต่างๆ
อย่างไรก็ตาม คอมมาร์ตเดือนก.ค.นี้ จะปรับกลยุทธ์การประชาสัมพันธ์ใหม่ เป็นแบบเรียลไทม์ผ่านเว็บไซต์ เนื่องจากครั้งนี้พบว่า โปรโมชั่นในเอกสารที่แจกไม่ตรงกับราคาขายจริง เพราะผู้ค้าต้องปรับราคาวันต่อวัน พร้อมกับเจรจาผู้ค้าบางราย ทำโปรโมชั่นคอมมาร์ตในร้านค้าต่างๆ เพื่อกระตุ้นตลาด
ที่มา: bangkokbiznews.com