“โน้ส อุดม” ยอมถอย ขอโทษ “ไก่ ปณิชา” ต่างฝ่ายต่างถอนฟ้องในทุกคดี เจ้าของร้านอาหารไทยชมอีกฝ่ายเป็นลูกผู้ชาย กล้าทำกล้ายอมรับ ให้อภัยไม่ติดใจเอาความ แต่ขอคิดก่อนหากจะร่วมงานกันอีก พร้อมประณาม “สินเจริญฯ-ปั่น” ไม่รู้จักบุญคุณคน มาพูดจาก้าวร้าวใส่ตน
นึกว่าจะต้องยืดเยื้อซะแล้ว สำหรับคดีฟ้องร้องที่เจ้าของร้านอาหารไทย "เทพพนม" ในเมืองซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริกา “ไก่ ปณิชา โศภณธนภัทร” ได้เป็นโจทก์ฟ้องเจ้าพ่อทอล์กโชว์อารมณ์ดี “โน้ส อุดม แต้พานิช” ฐานหมิ่นประมาท 2 คดีและแพ่งอีก 1 คดี ซึ่งหนุ่มจมูกโตก็ได้ฟ้องอีกฝ่ายกลับ ฐานผิดสัญญาว่าจ้างเป็นจำนวนเงิน 1.1 ล้านบาทเช่นกัน
โดยเรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นเมื่อปี 2552 “ไก่” ได้ว่าจ้างให้ “โน้ส” ไปเล่นคอนเสิร์ตที่อเมริกา แต่พอกลับถึงเมืองไทยหนุ่มจมูกโตไปพูดผ่านรายการหนึ่งว่า การไปเล่นทอล์กโชว์ครั้งนั้นได้ทุกอย่างยกเว้นเงิน ซึ่งทำให้ “ไก่” ควันออกหูโมโหเพราะทำให้ตนเสียชื่อเสียง จึงดำเนินการฟ้องร้องฐานหมิ่นประมาท แถมยังแฉอีกฝ่ายทำผิดสัญญาว่าจ้างด้วย ด้าน “โน้ส” ก็ออกมายันไม่ได้ทำอะไรผิด แถมเอาหลักฐานเป็นสัญญามายืนยัน บอกเจ้าของร้านอาหารไทยยังให้เงินค่าจ้างไม่ครบขาดอีก 1.1 ล้านบาท พร้อมย้ำถ้าได้เงินจำนวนดังกล่าวมา จะนำไปทำบุญทั้งหมด
ความคืบหน้าในเรื่องนี้เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา (25 ก.ย.) ทั้ง “โน้ส” และ “ไก่” ได้เดินทางมายังร้าน Melt Me ย่านทองหล่อซ. 10 มี “ตัน ภาสกรนที” และ “ตุ๊กตา อินทิรา แดงจำรูญ” เป็นคนกลางในการไกล่เกลี่ย จากนั้นทั้งคู่ก็แถลงข่าวว่าคดีความทุกอย่างตอนนี้ยุติเป็นที่เรียบร้อย
โน้ส : “ตอนนี้ทุกอย่างเรียบร้อยครับ เข้าใจกันดี ไม่มีติดค้างอะไร สำหรับเรื่องที่ผ่านมาถือซะว่าเป็นการเข้าใจผิดกันทั้งสองฝ่าย คนเซ็นสัญญาเป็นอีกคนนึง คนที่จัดงานก็เป็นอีกคนนึง ก็มีการเข้าใจคลาดเคลื่อนกัน แต่ว่าตอนนี้ก็มีการทำความเข้าใจกันแล้ว มีการพูดคุยไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงินหรือว่าเรื่องอื่นๆ ตอนนี้ก็ตกลงเป็นที่พอใจกันทั้งสองฝ่าย และเราก็ไม่อยากให้เรื่องคดีความนี้มันทำความทุกข์ใจให้กับทั้งสองฝ่าย ทางฝั่งเขาก็ต้องบินมาไกล ทั้งเปลืองค่าใช้จ่าย ฝั่งเราก็ต้องไปจ้างทนาย ฟ้องกันไปฟ้องกันมามันก็ไม่จบ อันนี้ผมก็คิดว่าถอยกันคนละก้าว และตอนนี้ก็สมานฉันท์ปรองดองกัน เข้าใจกันดีครับ”
“วันนี้เราก็จะคุยกันนะครับว่า อะไรที่ทำให้ทางพี่ไก่รู้สึกว่าไม่พอใจ หรือว่าเป็นทุกข์ก็ต้องกราบขออภัยมา ณ ที่นี้นะครับ แล้วก็ถอยกันคนละก้าว ไม่งั้นถ้ายังเป็นอย่างนี้คดีก็จะยืดยาวกันไปหลายปี ทนายก็จะรวยนะครับ และเราทั้งสองฝ่ายก็จะเดือดร้อน การที่ออกมาวันนี้เป็นการตกลงกันกับศาลว่า อะไรที่ทำให้ยุติได้ก็ทำครับ”
ไก่ : “คือการที่โน้สกล้าทำและกล้ารับ พี่ไก่ก็ถือว่าเป็นลูกผู้ชายคนนึง พี่ไก่ก็คงไม่ติดใจเอาความอีกแล้ว แต่สำหรับตอนนั้นที่เขาออกมาแถลงข่าว แล้วก็มีพวกสินเจริญ (บราเธอร์ส) กับปั่น (ไพบูลย์เกียรติ เขียวแก้ว) ที่ออกมาพูดจาก้าวร้าวพี่ไก่ คิดว่าทุกๆ คนคงจำได้ ทั้งๆ ที่สินเจริญกับพี่ปั่นไปโดยที่ว่าเป็นเงินของพี่ไก่ทั้งหมด แม้แต่ค่าไปเที่ยว ค่าเครื่องบิน ค่าใช้จ่าย ค่าอะไรจิปาถะทั้งหมด พี่ไก่เป็นคนจ่ายหมด คือกับโน้สพี่ไก่ให้อภัยแล้ว แต่กับพวกนั้นพี่ไก่ขอประณามว่าเขาทำไม่ถูก เขาไม่รู้จักบุญคุณคน ขอพูดไว้ตรงนี้นิดนึง เดี๋ยวไม่ใช่มีฟ้องกันต่ออีกนะ(หัวเราะ) แต่เรื่องวันนี้กับโน้สจบแล้ว เพราะเขาขอโทษพี่ไก่ พี่ไก่ก็จบ ถึงจะเสียชื่อเสียงไปก็คงไม่เป็นไรแล้วล่ะ เพราะเขาขอโทษแล้ว”
“โอกาสร่วมงานกันอีก ก็ขอฝากไว้ตรงนี้คำว่า สัญญาใจกับกากีนังใช้ไม่ได้กับอะไรที่มีเงินทอง คือจะเป็นเพื่อนกันยังไง ทุกอย่างควรจะเป็นสัญญา ควรจะเป็นลายลักษณ์อักษร เพราะว่าอย่างเขา(โน้ส) เป็นศิลปิน เขาคิดไว พูดไว แล้วเขาก็ลืมไวเหมือนกัน เขาสัญญาอะไรกับพี่ไก่แล้วเขาก็ลืม แต่จะร่วมงานกันได้อีกไหม ก็คงต้องคิดหน่อย”
โน้ส : “จริงๆ ตอนนี้เวลาจะทำงานอะไรผมก็กลัวนะครับ ผมว่าไม่ใช่แค่งานของผมนะ งานทุกอย่างแหละ มีอะไรก็ต้องทำให้มันเป็นเรื่องเป็นราวตั้งแต่แรก แต่นี่อย่าไปพูดเลยครับ มันผ่านไปแล้ว ก็ประมาณนี้ครับ”
ส่วนเงิน 1.1 ล้านบาท ที่ทาง “ไก่” ต้องชำระคืนให้กับ “โน้ส” เจ้าของร้านอาหารไทยในอเมริกาเผยว่า นำไปทำบุญแล้วส่วนนึง ตามสมเจตนาของอีกฝ่ายที่เคยประกาศเอาไว้
โน้ส : “เรื่องเงินก็ยินยอมกันทั้งสองฝ่ายครับ”
ไก่ : “เรื่องเงินก็ไม่มีอะไรแล้ว แต่ว่ามีอยู่จุดนึงที่โน้สเคยเกริ่นเอาไว้ว่า ถ้าเกิดเขาได้เงินตรงนั้นเขาจะเอาไปทำบุญ พี่ไก่ก็เลยบอกว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวพี่ไก่จะเอาเงินบางส่วนไปทำบุญให้ ตอนนี้ก็ทำไปแล้วสร้างกุฏิที่วัดเขาเขียวไปแสนนึง แล้วยังมีอีกแปดหมื่นเดี๋ยวก็ต้องไปมูลนิธิเด็กอีก เราก็ทำบุญไปเรื่อยๆ ให้สมเจตนาเขา เพราะพี่ไก่ก็รับบุญเต็มๆ ไม่เป็นไรอยู่แล้ว”
ที่มา: manager.co.th
