ร.ต.หญิงระนองรักษ์ สุวรรณฉวี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือ ไอซีที กล่าวว่า กระทรวงไอซีทีได้จัดการประชุมคณะกรรมการเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารแห่งชาติ หรือ กทสช. โดยมีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ที่ประชุมคณะกรรมการฯ โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบในหลักการให้นำแผนแม่บทฉบับที่ 2 เสนอต่อคณะรัฐมนตรี หรือ ครม.พิจารณา เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนสามารถเข้าถึงและใช้สารสนเทศอย่างมีคุณธรรม จริยธรรม
รมว.ไอซีที กล่าวต่อว่า เป้าหมายของแผนแม่บทฯ ฉบับที่ 2 คือ 1.ประชาชนอย่างน้อยร้อยละ 50 สามารถเข้าถึงและใช้ไอซีทีได้อย่างมีวิจารณญาณและรู้เท่าทัน 2.ยกระดับความพร้อมด้านไอซีทีในการจัดอันดับดัชนีบ่งชี้ระดับความพร้อมของการพัฒนาไอซีที และโอกาสการใช้ประโยชน์จากไอซีทีในการพัฒนาประเทศให้อยู่ในระดับสูงติดอันดับ 1 ใน 25 และ 3.มีสัดส่วนมูลค่าเพิ่มของอุตสาหกรรมไอซีที ต่อ จีดีพี ไม่น้อยกว่า 15%
“กระทรวงฯ ได้รับมอบหมายให้วางแผนผลักดันการดำเนินการตามแผนแม่บทฯ อย่างเป็นรูปธรรมโดยเฉพาะการใช้ไอซีทีกระตุ้นเศรษฐกิจ กำหนดมาตรการเลือกใช้เทคโนโลยีไอซีทีที่มีประสิทธิภาพและเหมาะกับภาคอุตสาหกรรม ภาคการเกษตร การเตือนภัยพิบัติทางธรรมชาติสิ่งแวดล้อม”ร.ต.หญิงระนองรักษ์ กล่าว
รมว.ไอซีที กล่าวอีกว่า กระทรวงฯต้องการสนับสนุนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐและเอกชน ที่ทำให้เกิดการกระจายโอกาสการเข้าถึงเทคโนโลยีสารสนเทศ และการให้บริการโทรคมนาคมพื้นฐานสู่ประชาชนกลุ่มต่างๆ พร้อมทั้งกำหนดมาตรการป้องกัน กำกับดูแล อาชญากรรมคอมพิวเตอร์ และภัยร้ายต่อสังคม หน่วยงานภาครัฐจะต้องเชื่อมโยงเครือข่ายข้อมูลอย่างเป็นระบบเพื่อการให้บริการประชาชน และผลักดันการใช้ open source เพื่อส่งเสริมนโยบายการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา รวมทั้งพัฒนานักวิจัยของประเทศไทย เพื่อลดค่าใช้จ่ายของภาครัฐ ทั้งนี้ แผนแม่บทฯ ได้กำหนดให้มีการพัฒนาบุคคลากรโดยแบ่งกลุ่มบุคลากรวิชาชีพ และผู้ใช้ไอซีทีเพื่อรองรับการนำประเทศไทยไปสู่สังคมอุดมปัญญาอย่างต่อเนื่อง
ร.ต.หญิงระนองรักษ์ กล่าวด้วยว่า ขั้นตอนต่อไปของการผลักดันแผนแม่บทฯ ฉบับที่ 2 ของประเทศไทย พ.ศ. 2552-2556 กระทรวงฯ จะนำแผนแม่บทฯ เข้าสู่การพิจารณาของครม. เพื่อขอรับความเห็นชอบ จากนั้นจะประกาศใช้เพื่อให้กระทรวง ทบวง กรมต่างๆ ใช้เป็นกรอบการจัดทำ ปรับแผนแม่บทฯ และแผนปฏิบัติการด้านไอซีทีของหน่วยงาน พร้อมกันนี้สำนักงบประมาณ สำนักงาน ก.พ. จะนำไปใช้เป็นกรอบแนวทางจัดสรรงบประมาณ และบุคลากร ขณะที่กระทรวงไอซีที จะดำเนินการประสาน กระทรวง กรมต่างๆ ติดตามประเมินผลการดำเนินงานตามแผนงาน โครงการ เพื่อให้การพัฒนาไอซีทีของประเทศตามแผนแม่บทฯ บรรลุตามเป้าหมายที่วางไว้
ที่มา: thairath.co.th
