Author Topic: “พจน์” เผย “ฟิล์ม” รับมีสัมพันธ์กับ “แอนนี่” แบบผิดธรรมชาติ ลั่นผิดทั้งคู่แขวะถ้าผู้หญิงไ  (Read 938 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


“พจน์” ยันไม่ได้เข้าข้าง “ฟิล์ม” แค่พูดเป็นกลาง แต่สังคมไม่ยอมรับความจริงเอง ปัดแต่งเรื่อง “แอนนี่” อ้างกับนักร้องหนุ่มทำหมันใส่ห่วงแล้ว แฉ “แอนนี่” เมาท์กับช่างแต่งหน้ามีอะไรกับ “ฟิล์ม” แบบแปลกๆ ผิดธรรมชาติ ซึ่งนักร้องหนุ่มก็ยอมรับกับตน เชื่อไม่โกหกพูดข้อมูลในบางเรื่องไม่ตรงดาราสาว วอนสังคมฟังความฝ่ายชายบ้าง บอกเรื่องนี้ผิดกันทั้งคู่ ถ้าผู้หญิงไม่ยอมจะเข้าไปได้ยังไง ลั่นไม่ได้ดูถูกเพศแม่ แต่ตราบาปตกอยู่กับ "ฟิล์ม" พร้อมกราบอ้อนวอน “เฮียฮ้อ” ให้โอกาสนักร้องหนุ่มอีกครั้ง
       
       ยังคงเป็นประเด็นให้ติดตามกันอย่างต่อเนื่อง สำหรับกรณีของนักร้องหนุ่ม “ฟิล์ม รัฐภูมิ โตคงทรัพย์” กับดาราสาว “แอนนี่ รุ่งนภา บรู๊ค” ซึ่งล่าสุดนอกจากบิ๊กบอสอาร์เอส “เฮียฮ้อ สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์” ที่ออกมาแถลง และบอกเล่าข้อมูลของฝั่งนักร้องหนุ่มที่ไม่ตรงกับ “แอนนี่” แล้ว ยังมีผู้กำกับชื่อดัง “พจน์ อานนท์” ที่ให้ข้อมูลจากการโทรศัพท์คุยแทบจะทุกวันกับ “ฟิล์ม” พร้อมวอนให้สังคมฟังความฝั่งนักร้องหนุ่มบ้าง
       
       และเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (22 ก.ย.) ผู้กำกับชื่อดังได้ไปออกรายการ “เช้าดู...วู้ดดี้” และถูก “วู้ดดี้ วุฒิธร มิลินทจินดา” ซึ่งเป็นพิธีกรได้เปิดประเด็นถามถึงการให้สัมภาษณ์ของเขา ที่ดูเหมือนจะเข้าข้าง “ฟิล์ม” แบบเห็นๆ เจ้าตัวรีบออกตัวปฏิเสธว่า ตัวเองพูดเป็นกลาง แขวะสังคมไม่ยอมรับความจริงเอง
       
       “ต้องบอกว่าสังคมเราไม่ค่อยยอมรับ ไม่ชอบความจริง มันต้องเกิดการโกหกกันไปมา ไม่รับฟังเรื่องจริง ซึ่งจริงๆ มันเป็นเรื่องของคนสองคน แต่ที่ออกมาพูดก็ไม่ได้อยากดัง แต่อยากพูดความจริงเป็นกลาง สังคมลงโทษฟิล์มขนาดนั้น ขอพูดหน่อยเถอะ ผมไม่ได้เข้าข้างใคร พูดแบบเป็นกลางมากกว่า เพราะก็เคยทำงานกับทั้งฟิล์มและแอนนี่ ผมออกมาพูดในลักษณะของความถูกต้อง ฟิล์มมันไม่ได้ผิด ถ้าจะถามหาคนผิด มันก็ผิดด้วยกันทั้งคู่”
       
       “ผมเจอฟิล์มมานานมากแล้ว เขาเป็นเด็กโมเดลลิ่ง ก็มาฝากให้เล่นหนัง มาสมัครเป็นนักแสดงเหมือนเด็กคนอื่นๆ ส่วนแอนนี่ผมก็รู้จัก ทุกคนรู้จักแอนนี่ แอนนี่ก็คือแอนนี่ครับ ซึ่งที่ผ่านมาผมไม่รู้เรื่องมาก่อน ทั้งที่ก่อนเกิดเรื่องฟิล์มยังแวะไปหาที่กองถ่ายหนังของผม ไปโชว์หุ่นโชว์กล้าม แล้วบอกว่าจะเล่นหนังเรื่องใหม่ ตอนนั้นก็ยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรระหว่างสองคนนี้”
       
       “จนเวลาไปกองถ่ายไปงาน ก็เจอแก๊งค์ช่างหน้าช่างผม เขาก็เมาท์กันว่าฝ่ายผู้หญิงมาเล่าว่ามีอะไรกับฟิล์ม และมีอะไรกันแบบแปลกๆ ผมก็ไม่เคยรู้มาก่อน ไม่ได้จะว่าใครไม่ดี แอนนี่ก็เป็นผู้หญิง จริงๆ ก็แค่ไปตรวจดีเอ็นเอมันก็จบ เพราะฟิล์มก็บอกอยู่ว่าเขารับผิดชอบ”
       
       “วู้ดดี้” ซักต่อว่า “ฟิล์ม” บอกฝ่ายหญิงไม่ใช่แฟน แล้วทำไมเวลามีอะไรกันถึงไม่ใส่ถุงยาง มีคนบอกว่าเขาแต่งเรื่อง “แอนนี่” อ้างว่าทำหมันแล้วขึ้นมา “พจน์” รีบค้านทันที
       
       “ไม่ได้แต่งเรื่องนะ คือเพื่อนดาราของฟิล์มที่สนิทมากเล่าให้ฟังว่า ตอนที่เขามีอะไรกันฝ่ายชายถามว่าจะเสร็จข้างในเลยไหม ผู้หญิงบอกได้เลยเขาทำหมันหรือใส่ห่วงแล้ว ซึ่งผมก็ฟังมาโดยละเอียดจากเพื่อนดาราสนิทของฟิล์ม แล้วผมก็ไปถามฟิล์มว่าจริงไหม ซึ่งคำตอบก็คือตรงกัน ตรงนี้ผมก็อยากจะบอกไว้เลยนะว่า ไม่ว่าหญิงชายจะมีอะไรกัน ถ้าไม่ใส่ถุงยางอย่ามีอะไรด้วยเด็ดขาด เพราะถ้ามันผิดพลาดมา ยังไงผู้หญิงก็เป็นคนเสียหาย ผู้ชายก็จะถูกตราบาปไปด้วย”
       
       “ที่บางคนไม่ใส่ถุงยางเพราะมันรีบกลัวว่าจะช้า แต่สังคมปัจจุบันก็อยากจะให้มองว่า อย่าคิดว่าผู้ชายผิดฝ่ายเดียว เลิกคิดประเด็นนี้ได้แล้ว เพราะการที่คนเราจะมีอะไรกันมันต้องยินยอมทั้ง 2 ฝ่าย ไม่ใช่ยอมเพียงฝ่ายเดียว เหมือนปรบมือข้างเดียวมันดังไม่ได้ ถ้าผู้หญิงไม่ยินยอมด้วย ถ้าไม่ยอมแล้วจะเข้าไปได้ยังไงใช่ไหมครับ”
       
       “ถามผมว่าเด็กคนนั้นใช่ลูกฟิล์มไหม ก็ไม่แน่ใจ เพราะไม่ได้ตรวจดีเอ็นเอ แต่ตอนนี้ฟิล์มโดนสังคมสับเละไปแล้ว ทั้งที่สังคมเราปัจจุบันใช้ชีวิตกันแบบนี้ มันเป็นเรื่องปกติ และผมเชื่อว่าผู้ชายทุกคนก็ต้องไม่มั่นใจว่าใช่หรือไม่ใช่ แต่สังคมก็ตราหน้ากันไปแล้วว่าไอ้นี้ไม่ดี อยากให้สังคมหันมาฟังฟิล์มบ้าง เขาก็ทำถูกต้องแล้ว แล้วเขาก็พูดอยู่แล้วว่า เขาก็รับผิดชอบถ้าใช่ลูกเขา หรือจะเอามาให้ผมเลี้ยงก็ได้ เพราะไม่แน่ใจว่าตอนนี้เขาจะเลี้ยงไหวไหม ในเมืองไม่มีงานไม่มีอะไรแล้ว”
       
       ยัน “ฟิล์ม” ไม่โกหก เล่าให้ตนฟังอย่างไร ก็บอก “เฮียฮ้อ” ตรงกันเช่นนั้น ถามกี่ครั้งก็ตอบเหมือนเดิมทุกครั้ง
       
       “ไม่มี ตรงกันทุกเรื่อง คือถ้าคนจะโกหกมันจะรู้ พูดใหม่มันก็จะไม่เหมือนเดิม เพราะบางทีเขาจำไม่ได้ว่าพูดอะไรไว้ แต่นี่ฟิล์มเล่าให้ผมฟังเหมือนกับที่เล่าให้เฮียฮ้อฟัง ถามกี่ครั้งก็เล่าเหมือนเดิม อย่างเรื่องตัวเลขที่เขาให้เงินส่งเสียผู้หญิง ผมก็ฟังฟิล์มนะ เขาบอกผมครั้งแรกให้ 150,000 แล้วก็ 50,000 และ 45,000 ซึ่งผมก็เชื่อว่าคนที่จะให้เงินคน มันจะจำได้ว่าให้เท่าไหร่ ให้ใคร แล้วฟิล์มก็บอกผมว่าให้ผจก. ที่ชื่อโน้ต ขับรถพาไปฝากท้อง พาไปโรงพยาบาล พาไปคลอด ซึ่งพ่อแม่ฟิล์มก็รับรู้ แม่เขาก็มาอยู่เป็นเพื่อนโดยตลอด วันคลอดก็จะซื้อทอง 1 บาทเตรียมไปเยี่ยมพร้อมพ่อแม่ที่โรงพยาบาล แต่ผู้หญิงโทรมาบอกว่าไม่ต้องไปคนเยอะเดี๋ยวเป็นข่าว”
       
       “ส่วนเรื่องตรวจดีเอ็นเอมันก็ตรงกันข้ามนะ ช่วง 4 เดือนแรกฟิล์มบอกเป็นคนชวนไปตรวจ แต่ฝ่ายหญิงบอกว่าไม่เชื่อใจเขาเหรอ ที่ผมพูดมาทั้งหมดเนี่ย ผมคุยกะฟิล์มอย่างละเอียด ไม่ได้คิดจะดูถูกผู้หญิง ไม่ได้คิดดูถูกเพศแม่ แต่ตอนนี้ตราบาปทั้งหมดมันมาตกอยู่ที่ฟิล์มคนเดียว อนาคตทั้งหมดก็จบลง”
       
       “วู้ดดี้” พูดแทรกว่าการระงับงานของ “ฟิล์ม” เป็นการจัดฉากของ “เฮียฮ้อ” หรือไม่ ผู้กำกับชื่อดังยันบิ๊กบอสอาร์เอสไม่ใช่คนเช่นนั้น พร้อมกราบอ้อนวอน “เฮียฮ้อ” ให้โอกาสนักร้องหนุ่มอีกครั้ง
       
       “เฮียฮ้อไม่ใช่คนแบบนั้น แต่ผมสงสารฟิล์มมากที่สุด แล้วก็สงสารแอนนี่ด้วย อยากให้สังคมเป็นกลาง ตอนที่เขามีอะไรกัน เราก็ไม่ได้อยู่กับเขา ไม่ได้ไปยุ่งกับเขา และผมเชื่อว่าฟิล์มก็เป็นลูกผู้ชายพอ ซึ่งโอกาสของฟิล์มที่จะทำงานในวงการ คงต้องกราบเฮียฮ้อแล้วล่ะครับว่าให้ช่วยน้องด้วย ฟิล์มไม่ติดยา ไม่ได้ฆ่าคนตาย ขอโอกาสให้น้องด้วย ด้วยความที่เป็นคนนิสัยดี น่ารัก ตลก ขาว หล่อ สะอาด ผู้หญิงก็ชอบก็รัก เป็นเรื่องธรรมดา”
       
       “ถ้าไม่อย่างนั้นเขาก็คงไปช่วยพ่อเขาทำงานติดแอร์ตามบ้าน เพราะพ่อเขามีอาชีพรับติดแอร์เดินสายแอร์ตามบ้าน แม่ก็เปิดร้านเสริมสวยเล็กๆ ตามหมู่บ้าน เป็นครอบครัวที่สู้ชีวิต ไม่ได้ร่ำรวย ผมรู้จักครอบครัวเขามานาน เห็นทุกสิ่งที่เปลี่ยนไป ซึ่งถ้าผมได้เป็นผู้จัดการเขา ผมเองก็คงทำอะไรไม่ถูกนะที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ผมคงต้องหาความจริง เพื่อให้สังคมได้รับรู้ ทำไมต้องบอกว่าฟิล์มผิดคนเดียว จริงๆ มันก็ผิดทั้งคู่ที่ไม่รู้จักป้องกัน สื่อประโคมข่าวกันไปว่าฟิล์มไม่รับผิดชอบ ซึ่งผมมองว่าเขาก็พยายามรับผิดชอบในความเป็นมนุษย์ของเขา ถ้ามันไม่เป็นลูกผู้ชาย มันคงไม่ทำใครท้องหรอกนะ”
       
       “ฟิล์ม” เคยคิดฆ่าตัวตายไหม? “วู้ดดี้” ถามต่อ
       
       “ไม่ๆ นะ ฟิล์มยังเด็กมาก เขาก็ใช้ชีวิตอยู่ในห้องในบ้านของเขา เขาเด็กมากๆ จริงๆ เขาเป็นเด็กน่ารัก ร่างเริง เป็นคนตลกนะ ผมก็เห็นใจมัน ก็อยากให้ฟังมันดีๆ ฟังมันบ้าง”
       
       “ตอนนี้ฟิล์มยังติดต่อแอนนี่อยู่หรือเปล่า ผมไม่ทราบเลยครับ ขนาดเรื่องเขามีอะไรกัน ผมยังไปรู้มาจากกะเทยช่างหน้าช่างผมที่เมาท์กันว่า สองคนเขามีอะไรกันแล้วเป็นแบบผิดธรรมชาติ แล้วฟิล์มก็เล่าให้ฟังทุกอย่าง เพราะมันเคยเกิดกรณีเสี่ยอู๊ดมาแล้ว ซึ่งเขาก็เล่าให้ฟังทุกอย่างทุกเรื่อง แต่อันนั้นเขาไม่มีอะไรกันนะ เขายังเด็กมากเพิ่งเข้ามาในวงการ มีคนมาให้บ้านให้รถด้วยความพิศวาสหรืออะไรไม่รู้ล่ะ เป็นผมก็เอานะ โดยไม่ได้คิดหรอกว่ามันจะมามีผลกระทบอะไรตอนหลัง เพราะเขาเด็กมาก แต่คนก็เมาท์กันไปว่าเขาเป็นเกย์ ซึ่งฟิล์มเป็นผู้ชายแน่นอน”
       
       “ส่วนเรื่องฝ้าย (บุศริน มโหทาน) ที่ออกมาร้องไห้บอกเป็นแฟนคบกันมานานตั้ง 8 ปี ไม่เกี่ยวกันเลยนะ เขาเลิกกันมาตั้งนานหลายปีแล้ว ฟิล์มเป็นคนบอกเลิกเอง แล้วเท่าที่เคยเห็นเขาก็มีแฟนใหม่แล้วนี่ เป็นดาราใครสักคนนี่แหละ เขาก็คงร้องไห้ตามประสาอารมณ์ผู้หญิงไป ไม่รู้นะจะมาเกาะกระแสดังไม่ดัง แต่ผมไม่ได้เกาะกระแสฟิล์มดัง ปมดังมาก่อนสองคนนี้จะเกิดแล้ว ดังนั้นไม่จำเป็นต้องมาดังอะไรอีก”
       
       เมื่อสอบถามต่อว่าเรื่องราวนี้จะจบลงอย่างไร ผู้กำกับคนดังแนะ “ฟิล์ม-แอนนี่” ให้ตรวจดีเอ็นเอ พร้อมเตือนภัยผู้หญิงอย่าเชื่อลมปากผู้ชายที่ขอมีความสัมพันธ์แล้วไม่ใส่ถุงยาง
       
       “มันก็เป็นเรื่องของคนสองคน มาตรวจดีเอ็นเอกันซะ แล้วก็รับผิดชอบกันไป ถ้าตรงกันฟิล์มก็รับผิดชอบ ถ้าไม่ใช่ผู้หญิงก็รับผิดชอบชี้แจงกันไป แต่ตอนนี้ฟิล์มมันก็ตายทั้งเป็นไปแล้ว ขอบอกไว้ตรงนี้เลยนะว่า ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงคนไหน อย่าไปเชื่อถ้าผู้ชายบอกรักแล้วไม่ใส่ถุงยาง ....อย่าเชื่อเด็ดขาด”


ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)